ทอท.ยันปรับปรุงรันเวย์สุวรรณภูมิเที่ยวบินดีเลย์ไม่มาก อยู่ในมาตรฐาน 30-40 นาที ยอมรับวันที่ 11 มิ.ย. มีเพียงยูไนเต็ดแอร์ไลน์เปลี่ยนไปลงดอนเมืองแทนเที่ยวบินเดียว เตรียมเปิดจุดตรวจค้นใหม่ 15 มิ.ย.นี้ พื้นที่เพิ่ม 2 เท่า รับได้ 7,200 คน/ชม.ลดแออัด “สมชัย” ยันเดินหน้าปรับปรุงเพิ่มความสะดวกผู้โดยสารเต็มที่
นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกด้านทิศเหนือ ระยะทาง 1,620 เมตร ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา มีผลกระทบทำให้เที่ยวบินล่าช้า (ดีเลย์) บ้างเฉลี่ยไม่เกิน 30-40 นาที โดยจากรายงานเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนมีสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินนาริตะ-กรุงเทพฯ เพียงเที่ยวบินเดียวที่ต้องเปลี่ยนไปลงที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเนื่องจากการปริมาณน้ำมันสำรองของสายการบินเอง ซึ่งปัจจุบันสุวรรณภูมิมี 850 เที่ยวบินต่อวัน โดยเฉลี่ยล่าช้าประมาณ 250 เที่ยวบิน ซึ่งไม่ต่ำกว่ามาตรฐานและถือว่าดีกว่าช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) เดือนมกราคม-มีนาคม ที่มีกว่า 1,000 เที่ยวบินต่อวัน และมีดีเลย์มากกว่านี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 04.00 น.ของวันที่ 15 มิ.ย. 2555 เป็นต้นไป ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเปิดให้บริการจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ชั้นลอยเหนือจุดตรวจหนังสือเดินทางด้านตะวันออก ซึ่งจะทำให้มีความสะดวกมากขึ้นเพราะมีพื้นที่ประมาณ 1,600 ตารางเมตร มากกว่าเดิมที่อยู่ด้านหลังด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่มีพื้นที่ 490 ตารางเมตร โดยมีการติดตั้งเครื่อง X-Ray สัมภาระ จำนวน 12 เครื่อง เครื่อง X-Ray กระเป๋าแบบ 3 มิติ หรือเครื่อง CT 80 จำนวน 2 เครื่อง เครื่อง Walk Through Metal Detector จำนวน 6 เครื่อง เครื่องตรวจร่างกาย ( Body Scanner) จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งสามารถตรวจจับวัตถุที่เป็นโลหะและไม่เป็นโลหะได้ และยาเสพติด รองรับการให้บริการผู้โดยสารได้สูงถึง 3,600 คนต่อชั่วโมงมากกว่าเดิม 2.5 เท่า โดยจุดตรวจค้นด้านตะวันตกจะเปิดใช้ในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้เป็น 7,200 คนต่อชั่วโมง จากเดิมที่มีพื้นที่จำกัดรองรับได้ 2,880 คนต่อชั่วโมงเท่านั้น
“จุดตรวจค้นใหม่จะช่วยให้ผู้โดยสารสะดวกมากขึ้น ลดระยะเวลาจาก 1 นาทีต่อคน เหลือ 40-45 วินาทีต่อคน และยังช่วยให้ผู้โดยสารที่ลืมนำของเหลวออกจากสัมภาระ ยังสามารถฝากกับญาติที่มาส่งได้ไม่ต้องทิ้งเหมือนเดิม เพราะจุดนี้จะอยู่ก่อนผ่าน ตม. ขณะที่ทางบริษัท ASM ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานให้บริการรักษาความปลอดภัยนั้นจะต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ประมาณ 2 เท่า”นายสมชัยกล่าว
นายสมชัยกล่าวว่า กรณีที่สายการบินระบุว่าได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงรันเวย์นั้นต้องพิจารณาว่าการดีเลย์มาจากจุดไหน เพราะการให้บริการของสนามบินมีหลายขั้นตอน ซึ่งที่ผ่านมา ทอท.ได้มีการปรับปรุงในหลายส่วนให้มีความสะดวกมากขึ้น โดยนอกจากจุดตรวจค้นและระบบการตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic Channel) หรือ e-passport แล้วยังได้มีการติดตามและกวดขันการทำงานของผู้รับสัมปทานต่างๆ เช่น บริการภาคพื้นดิน บริการโหลดกระเป๋า ซึ่งตามเงื่อนไขกระเป๋าใบแรกและใบสุดท้ายจะต้องไม่เกิน 15-25 นาที พบว่ามีล่าช้าอยู่ประมาณ 30-50 นาที เป็นต้น