ตม.เล็งขยายตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติที่สนามบินภูเก็ต เชียงใหม่ ดอนเมือง

สตม.ปลื้มระบบการตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic Channel) หรือ e-passport สุวรรณภูมิ แก้ไขปัญหารอนานเหลือ 20 วินาที/คน ผู้โดยสารใช้บริการวันละ 6,000-8,000 คน เตรียมขยายบริการให้ผู้โดยสารต่างชาติ และติดตั้งเพิ่มที่ท่าอากาศยานภูเก็ต,เชียงใหม่และดอนเมือง “พล.ต.ต.ณัฐธร “ยอมรับยังมีปัญหาอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ตม.ยังไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.ต.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บังคับการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดใช้ระบบการตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic Channel) หรือ e-passport เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2555 โดยติดตั้ง จำนวน 16 เครื่องมูลค่ากว่า 71 ล้านบาท แบ่งเป็นขาออก 8 เครื่องขาเข้า 8 เครื่อง นั้นช่วยเพิ่มความเร็วในการตรวจ จากการใช้เจ้าหน้าที่ 45 วินาที เหลือ 20 วินาที โดยปัจจุบันมีผู้โดยสารที่เป็นคนไทยใช้บริการเกิน 50% หรือประมาณ 6,000-8,000 คนต่อวัน

โดยเร็วๆนี้ จะขยายการให้บริการ e-passport กับผู้โดยสารต่างชาติที่มีถิ่นที่พักในประเทศไทยถาวร โดยอยู่ระหว่างการจัดทำฐานข้อมูล เพื่อจัดกลุ่มชาวต่างชาติ เช่น กลุ่มที่พำนักถาวร กลุ่มนักลงทุรน กลุ่มที่วีซ่าอายุ 1ปี เป็นต้น โดยจะเปิดใหลงทะเบียนต่อไป นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายการให้บริการ e-passport ไปที่ท่าอากาศยานภูเก็ตและเชียงใหม่ซึ่งมีผู้โดยสารชาวต่างชาติใช้บริการจำนวนมาก รวมถึงท่าอากาศดอนเมือง ซึ่งจะมีการย้ายเที่ยวบินของสายการบินต้นทุนต่ำ (Lowcost Airline) ไปให้บริการ

พล.ต.ต.ณัฐธร กล่าวว่า ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ ตม. ประจำการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำนวน 1,051 คน โดยแบ่งเป็นเคาร์เตอร์ตรวจคนขาเข้า 114 เคาร์เตอร์ และขาออก 80 เคาร์เตอร์ แต่ยอมรับว่าปริมาณเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอกับการปฏิบัติหน้าที่ โดยอัตราในตำแหน่ง ตม. ยังว่างอยู่ประมาณ 500 คน หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้มีการบรรจุเจ้าหน้าที่ ตม.จำนวน 1,700 อัตรา ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้โดยสารมาใช้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกว่า 47.8 ล้านคนต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน