“พาณิชย์” ยันมาตรการคุมราคาอาหารปรุงสำเร็จ 7 รายการในพื้นที่ 38 จังหวัด ไม่ได้เลือกปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือคนรวยหรือคนจน แนะพรรค ปชป.ไม่ควรดึงมาเป็นประเด็นการเมือง เปิดเมนูข้าวแกง-ตามสั่ง-ก๋วยเตี๋ยว ราคาเดียว 30 บาท มั่นใจแนวโน้มปรับลงตามราคาน้ำมัน ระบุสิ่งที่น่าห่วงตอนนี้คือ ผลกระทบวิกฤตหนี้ยุโรปต่อภาคส่งออก
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดูแลราคาสินค้าที่มีผลต่อภาระค่าครองชีพประชาชน โดยยืนยันว่าการพิจารณาคุมราคาอาหารปรุงสำเร็จ 7 รายการใน 38 จังหวัดไม่ได้เลือกปฏิบัติช่วยเหลือคนรวยหรือคนจน โดยคณะอนุกรรมการกำกับดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่มี จังหวัดที่คิดว่าจะควบคุมราคาอาหารปรุงสำเร็จก็ไม่ได้รับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาออกประกาศควบคุมราคาอาหารปรุงสำเร็จยังมีเวลาพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะราคาสินค้าต่างๆ เริ่มปรับลดลงตามราคาน้ำมัน แต่สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุดขณะนี้คือ การหามาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออกหากได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บอกด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไม่ควรนำเรื่องราคาสินค้ามาเป็นประเด็นทางการเมือง และการนำประเด็นนี้มาโจมตีรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้มองในภาพรวมหรือรอบด้าน เพราะรัฐบาลไม่สามารถเลือกช่วยคนรวยคนจนได้ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกัน แนวคิดคุมราคาอาหารปรุงสำเร็จ กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมาแล้ว
สำหรับอาหารปรุงสำเร็จ 7 รายการที่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จจะเสนอให้ออกประกาศควบคุมราคาขาย คือ ข้าวผัดหมูหรือไก่ ข้าวผัดกะเพราหมูหรือไก่ ข้าวราดแกง 1-2 อย่าง ก๋วยเตี๋ยวหมูหรือไก่ ข้าวไข่พะโล้ ซึ่งเมนูเหล่านี้คุมราคาไม่เกินเมนูละ 30 บาท ยกเว้นภาคใต้ไม่เกิน 35 บาท ข้าวไข่เจียว คุมราคาไม่เกิน 20 บาท ยกเว้นภาคใต้ไม่เกิน 25 บาท และโจ๊กหมูหรือไก่ ราคาไม่เกิน 25 บาท ยกเว้นภาคใต้ไม่เกิน 30 บาท
ส่วนการดูแลเงินเฟ้อในช่วงต่อไปจะพยายามดูแลให้ทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.1-3.2 คงไม่มีมาตรการใดที่จะมากดดันเงินเฟ้อให้ลดลงไปมากเพราะอาจส่งสัญญาณผิดได้ เท่าที่ติดตามสถานการณ์ดูในขณะนี้ปัญหาราคาสินค้า ค่าครองชีพเริ่มคลี่คลายลงแล้ว เห็นจากกำลังซื้อของประชาชนเป็นปกติ ดูได้จากมูลค่าตัวเลขการเติบโตของจีดีพี
ขณะที่นโยบายตรึงราคาสินค้า หากไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง กระทรวงพาณิชย์จะยกเลิกมาตรการดูแลสินค้าหากไม่มีสัญญาณเชิงลบจะไม่มีมาตรการเพิ่มเติม รวมถึงจะไม่ต่อมาตรการตรึงราคาสินค้าที่จะสิ้นสุดการขอความร่วมมือกับภาคเอกชนในวันที่ 30 กันยายน 2555 นี้
