ฝรั่งยังไม่เล่น
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นวันนี้เป็นไปอย่างลุ่มๆ ดอนๆ ไร้ทิศทางที่ชัดเจน โดยช่วงเช้าดัชนีลบไปกว่า 10 จุด เนื่องจากไม่มีข่าวดีเข้ามาหนุน และตลาดหุ้นยุโรป รวมทั้งสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ทรุดตัวลง ขณะที่ตลาดหุ้นย่านเอเชียโดยรวมปรับฐานตาม ส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาทำให้นักลงทุนพากันเทขายหุ้น เพราะเมื่อวันจันทร์ดีดตัวร้อนแรงมากเกินไป
แต่ในการซื้อขายภาคบ่าย หลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปเปิดซื้อขาย ซึ่งเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ แต่ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวกไปหลายสิบจุด ทำให้นักเก็งกำไรเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อดักเก็งกำไร โดยคาดหวังว่า เมื่อดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก คงจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นย่านเอเชีย รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาผลักดันให้ราคาหุ้นขยับตัวขึ้นโดยเฉพาะกลุ่ม ปตท. ดึงดัชนีให้ขยับตาม และพลิกสถานการณ์จากช่วงเช้าที่ติดลบกลายเป็นบวกเมื่อปิดตลาดในภาคบ่าย
ดัชนีปิดที่ 1162.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.86 จุด มูลค่าซื้อขาย 29,116 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขาย 1,286 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยวันนี้แสดงความแข็งอีกครั้ง โดยปรับตัวขึ้นสวนตลาดหุ้นเพื่อนบ้านย่านเอเชีย แต่เป็นการปรับตัวขึ้นโดยขาดปัจจัยสนับสนุน และเกิดจากการคาดหมายว่าตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้จะกระเตื้องขึ้น จึงมีการซื้อดักทำให้เป็นการปรับตัวขึ้นที่มีความเปราะบาง และพร้อมจะปรับฐานลงได้ ซึ่งดูจากสถานการณ์แวดล้อมแล้ว วันพรุ่งนี้หุ้นก็มีโอกาสปรับตัวลง หรืออย่างน้อย ถ้าจะดีดตัวต่อ คงจะไม่สามารถขยับตัวขึ้นได้มากนัก
เพราะตลาดหุ้นยุโรปยังทรุดตัวในช่วงแคบๆ ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดก็บวกเพียงประมาณ 30 จุด นอกจากนั้น นักลงทุนต่างชาติก็ยังขาย สะท้อนว่า แม้ตลาดจะปรับตัวขึ้น แต่ต่างชาติก็ยังไม่กลับเข้ามาเล่น ซึ่งอาจเป็นเพราะกังวลวิกฤตหนี้ยุโรปอยู่ จึงทยอยลดน้ำหนักการลงทุน และหากหุ้นดีดตัวแรง ต่างชาติอาจขายหนักมือขึ้น ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ควรระวัง
คำแนะนำของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมุ่งไปสู่การขายทำกำไรระยะสั้น เพราะไม่เชื่อว่าการดีดตัวรอบนี้จะยืดเยื้อ ไม่เชื่อว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,200 จุดในม้วนเดียว ซึ่งดูตัวเลขการซื้อขายของรายย่อยแล้วก็หนักไปทางขาย แสดงว่ารายย่อยส่วนใหญ่ประเมินสถานการณ์ตลาดได้ดี และรู้ตัวว่าควรจะวางกลยุทธ์อย่างไร
ภาวะตลาดขณะนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาการซื้อหุ้น โดยเฉพาะการซื้อไล่ราคา เพราะอาจเจอของแข็ง เจอตลาดปรับฐานได้
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นวันนี้เป็นไปอย่างลุ่มๆ ดอนๆ ไร้ทิศทางที่ชัดเจน โดยช่วงเช้าดัชนีลบไปกว่า 10 จุด เนื่องจากไม่มีข่าวดีเข้ามาหนุน และตลาดหุ้นยุโรป รวมทั้งสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ทรุดตัวลง ขณะที่ตลาดหุ้นย่านเอเชียโดยรวมปรับฐานตาม ส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาทำให้นักลงทุนพากันเทขายหุ้น เพราะเมื่อวันจันทร์ดีดตัวร้อนแรงมากเกินไป
แต่ในการซื้อขายภาคบ่าย หลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปเปิดซื้อขาย ซึ่งเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ แต่ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวกไปหลายสิบจุด ทำให้นักเก็งกำไรเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อดักเก็งกำไร โดยคาดหวังว่า เมื่อดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก คงจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นย่านเอเชีย รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาผลักดันให้ราคาหุ้นขยับตัวขึ้นโดยเฉพาะกลุ่ม ปตท. ดึงดัชนีให้ขยับตาม และพลิกสถานการณ์จากช่วงเช้าที่ติดลบกลายเป็นบวกเมื่อปิดตลาดในภาคบ่าย
ดัชนีปิดที่ 1162.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.86 จุด มูลค่าซื้อขาย 29,116 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขาย 1,286 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยวันนี้แสดงความแข็งอีกครั้ง โดยปรับตัวขึ้นสวนตลาดหุ้นเพื่อนบ้านย่านเอเชีย แต่เป็นการปรับตัวขึ้นโดยขาดปัจจัยสนับสนุน และเกิดจากการคาดหมายว่าตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้จะกระเตื้องขึ้น จึงมีการซื้อดักทำให้เป็นการปรับตัวขึ้นที่มีความเปราะบาง และพร้อมจะปรับฐานลงได้ ซึ่งดูจากสถานการณ์แวดล้อมแล้ว วันพรุ่งนี้หุ้นก็มีโอกาสปรับตัวลง หรืออย่างน้อย ถ้าจะดีดตัวต่อ คงจะไม่สามารถขยับตัวขึ้นได้มากนัก
เพราะตลาดหุ้นยุโรปยังทรุดตัวในช่วงแคบๆ ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดก็บวกเพียงประมาณ 30 จุด นอกจากนั้น นักลงทุนต่างชาติก็ยังขาย สะท้อนว่า แม้ตลาดจะปรับตัวขึ้น แต่ต่างชาติก็ยังไม่กลับเข้ามาเล่น ซึ่งอาจเป็นเพราะกังวลวิกฤตหนี้ยุโรปอยู่ จึงทยอยลดน้ำหนักการลงทุน และหากหุ้นดีดตัวแรง ต่างชาติอาจขายหนักมือขึ้น ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ควรระวัง
คำแนะนำของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมุ่งไปสู่การขายทำกำไรระยะสั้น เพราะไม่เชื่อว่าการดีดตัวรอบนี้จะยืดเยื้อ ไม่เชื่อว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,200 จุดในม้วนเดียว ซึ่งดูตัวเลขการซื้อขายของรายย่อยแล้วก็หนักไปทางขาย แสดงว่ารายย่อยส่วนใหญ่ประเมินสถานการณ์ตลาดได้ดี และรู้ตัวว่าควรจะวางกลยุทธ์อย่างไร
ภาวะตลาดขณะนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาการซื้อหุ้น โดยเฉพาะการซื้อไล่ราคา เพราะอาจเจอของแข็ง เจอตลาดปรับฐานได้