กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดงานสัมมนาย้ำความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลีย 60 ปี เน้นการใช้สิทธิประโยชน์จาก TAFTA เพื่อขยายการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศให้เพิ่มขึ้น
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ในปี 2555 กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกำหนดจัดงานสัมมนา “Thailand-Australia: Six Decades and Beyond” ในวันพุธที่ 20 มิถุนายน 2555 เวลา 13.00-17.00 น. ณ ห้องดุสิตธานีฮอลล์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
การสัมมนาฯ ครั้งนี้ได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย (Mr. James Wise) แสดงปาฐกถาพิเศษ ประกอบด้วย การบรรยายพิเศษและการเสวนา โดยหัวหน้าคณะเจรจาความตกลงการค้าเสรี TAFTA ของออสเตรเลีย ผู้แทนจากภาควิชาการ และผู้แทนบริษัทเอกชนของประเทศไทยและออสเตรเลียร่วมเป็นวิทยากร เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อคิดเห็นระหว่างภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการเจรจาความตกลงการค้าเสรีของภาคเอกชนผู้ประกอบธุรกิจการค้าการลงทุนในสองประเทศ เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี TAFTA โอกาสและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจในสองประเทศ ตลอดจนแนวทางการปรับปรุงความตกลง TAFTA เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น โดยผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2507-7252, 0-2507-7255
ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2555 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA JC) ครั้งที่ 3 ณ โรงแรมดุสิตธานี เพื่อทบทวนการใช้ประโยชน์จากความตกลง TAFTA ของทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมา และหารือแนวทางความร่วมมือเพื่อขยายการค้าการลงทุนระหว่างกันอีกด้วย
ในปี 2554 ไทยและออสเตรเลียมีมูลค่าการค้าระหว่างกันกว่า 15,942 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปออสเตรเลียกว่า 7,997 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ไทยนำเข้าจากออสเตรเลียกว่า 7,945 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ากับออสเตรเลียกว่า 52 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ หลังจากไทยและออสเตรเลียเริ่มการลดภาษีระหว่างกันภายใต้ TAFTA การค้าสองฝ่ายขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับออสเตรเลียภายใต้ TAFTA ด้วยเช่นกัน สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปออสเตรเลีย ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าสำคัญจากออสเตรเลีย ได้แก่ เครื่องเพชรพลอยอัญมณี เงินแท่งและทองคำ น้ำมันดิบ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ในปี 2555 กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกำหนดจัดงานสัมมนา “Thailand-Australia: Six Decades and Beyond” ในวันพุธที่ 20 มิถุนายน 2555 เวลา 13.00-17.00 น. ณ ห้องดุสิตธานีฮอลล์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
การสัมมนาฯ ครั้งนี้ได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย (Mr. James Wise) แสดงปาฐกถาพิเศษ ประกอบด้วย การบรรยายพิเศษและการเสวนา โดยหัวหน้าคณะเจรจาความตกลงการค้าเสรี TAFTA ของออสเตรเลีย ผู้แทนจากภาควิชาการ และผู้แทนบริษัทเอกชนของประเทศไทยและออสเตรเลียร่วมเป็นวิทยากร เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อคิดเห็นระหว่างภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการเจรจาความตกลงการค้าเสรีของภาคเอกชนผู้ประกอบธุรกิจการค้าการลงทุนในสองประเทศ เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี TAFTA โอกาสและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจในสองประเทศ ตลอดจนแนวทางการปรับปรุงความตกลง TAFTA เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น โดยผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2507-7252, 0-2507-7255
ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2555 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA JC) ครั้งที่ 3 ณ โรงแรมดุสิตธานี เพื่อทบทวนการใช้ประโยชน์จากความตกลง TAFTA ของทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมา และหารือแนวทางความร่วมมือเพื่อขยายการค้าการลงทุนระหว่างกันอีกด้วย
ในปี 2554 ไทยและออสเตรเลียมีมูลค่าการค้าระหว่างกันกว่า 15,942 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปออสเตรเลียกว่า 7,997 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ไทยนำเข้าจากออสเตรเลียกว่า 7,945 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ากับออสเตรเลียกว่า 52 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ หลังจากไทยและออสเตรเลียเริ่มการลดภาษีระหว่างกันภายใต้ TAFTA การค้าสองฝ่ายขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับออสเตรเลียภายใต้ TAFTA ด้วยเช่นกัน สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปออสเตรเลีย ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าสำคัญจากออสเตรเลีย ได้แก่ เครื่องเพชรพลอยอัญมณี เงินแท่งและทองคำ น้ำมันดิบ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น