“อมตะนคร” นำร่องพัฒนาสู่เมืองนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ

กนอ.ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างนิคมฯ อมตะนครกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม จัดตั้งศูนย์บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการของเสีย หรือ OSS พร้อมดึงผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นถ่ายทอดความรู้ หวังยกระดับนิคมฯ ทั่วประเทศก้าวสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (7 มิ.ย.) ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอมตะนครเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระหว่างกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กนอ. บริษัทอมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม สำนักงานคันไซ ประเทศญี่ปุ่น หรือเมติ โดยมี ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานในพิธีลงนาม

ทั้งนี้ จะมีการจัดตั้งศูนย์บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการของเสีย (One Stop Service (OSS) ตามหลัก 3Rs (Reduce, Reuse & Recycle) ที่เป็นการบริหารจัดการของเสียแบบครบวงจร ซึ่งศูนย์ฯ ดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน ให้ผู้ประกอบการ ผู้พัฒนานิคมฯ ทั่วประเทศได้รับความรู้และความเข้าใจอย่างแท้จริงในการดำเนินการจัดการของเสียในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ

ศูนย์บริหารจัดการกากของเสียที่จัดตั้งขึ้นมาครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากญี่ปุ่นในการจัดส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำแนะนำ โดยมีการถ่ายทอดเทคนิคในทุกขั้นตอนของระบบ ตั้งแต่การขนส่งกากของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมไปจนถึงการฝังกลบด้วยระบบเทคโนโลยีขั้นสูง และการนำส่วนที่สามารถไปรีไซเคิลเพื่อกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์ และคุ้มค่า และมีส่วนสำคัญต่อการดูแลสิ่งแวดล้อมในประเทศ

ทั้งนี้ กนอ.ได้วางแนวทาง และการดำเนินการให้นิคมฯ ทั่วประเทศมุ่งสู่การพัฒนาและยกระดับนิคมอุตสาหกรรมเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีความสมบรูณ์แบบ และมีความดุลภาพ ความยั่งยืนทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมานิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งเริ่มดำเนินการไปแล้วในการที่จะพัฒนาให้เป็นนิคมฯ เชิงนิเวศตามมาตรฐานที่ กนอ.ได้กำหนดไว้ใน 5 มิติ 22 ด้าน ซึ่งในส่วนของนิคมฯ อมตะนคร เป็นอีกหนึ่งต้นแบบในการพัฒนา และจะใช้ขยายผลไปยังนิคมฯ อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี” นายวีรพงศ์กล่าว

ปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครถือเป็นนิคมฯ นำร่องอันดับแรกๆ ที่ให้ความร่วมมือกับ กนอ.ในการพัฒนานิคมฯ ให้ก้าวไปสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยได้เริ่มปฏิบัติการในปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังให้ความสำคัญต่อการดูแลสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้าน โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการน้ำแบบมีส่วนร่วม การพัฒนาศูนย์บริหารจัดการกากของเสียครบวงจร ยกระดับการกำกับดูแลโรงงานด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย และมุ่งสู่การเป็นนิคมอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำในที่สุด