xs
xsm
sm
md
lg

เข้ม รง.2 พันแห่งรื้อแผนประเมินความเสี่ยง ก.อุตฯ จ้องลงดาบสั่งปิดหากไม่ทำตามแผน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระทรวงอุตสาหกรรมสั่งเช็ก 2,114 โรงงานเสี่ยงอันตรายสูง ทบทวนแผนประเมินความเสี่ยงให้เสร็จภายใน 30 วันหรือไม่เกิน 9 มิถุนายน 55 ก่อนลงดาบตามขั้นตอนปรับปรุงโรงงาน และหากไม่เป็นไปตามแผนพร้อมลุยสั่งปิดทันที

ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัด 59 จังหวัดเพื่อที่จะมอบนโยบายในการดูแลโรงงานที่เข้าข่ายอยู่ในประเภทความเสี่ยงสูง วานนี้ (9พ.ค.) ว่า ที่ประชุมได้สรุปกิจการที่เข้าข่ายความเสี่ยงสูงที่จะต้องเร่งทบทวนแผนการประเมินความเสี่ยงกิจการเร่งด่วน 2,114 แห่งจากทั้งสิ้น 3,000 แห่ง โดยได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัดแต่ละแห่งไปจำแนกประเภทกิจการในรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันหรือไม่เกินวันที่ 9 มิถุนายน 55

ทั้งนี้ เมื่อทราบถึงรายละเอียดของแผนรายงานการประเมินความเสี่ยงของโรงงานที่เสี่ยงอันตรายแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะต้องสอบทานให้โรงงานดังกล่าวปรับปรุงตามแผนที่กำหนดไว้ และหากภายใน 30 วันยังไม่มีความคืบหน้าหรือจงใจไม่ปฏิบัติตามก็ควรจะสั่งปิดดำเนินการทันที เพราะไม่ต้องการเห็นการเสียชีวิตของประชาชนจากอุบัติเหตุโรงงานก่อนจึงสั่งปิดภายหลัง

“ได้มอบให้อุตสาหกรรมจังหวัดไปเร่งทบทวนแผนประเมินความเสี่ยงมาให้ชัดเจนแยกประเภทกิจการ รวมถึงจัดทำพื้นที่เสี่ยงที่เป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับนโยบายนายกรัฐมนตรีที่ไม่ต้องการเห็นอุบัติเหตุในโรงงานที่ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินเกิดซ้ำรอยเช่นกรณีของโรงงานบีเอสที อิลาสโตเมอร์ส และโรงงานของอดิตยา เบอร์ล่า เคมีคอล ประเทศไทย จำกัด” รมว.อุตสาหกรรมกล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังกำหนดให้มีการจัดอบรมการทำแผนฉุกเฉินชุมชนแต่ละจังหวัดเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลซึ่งกันและกันในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ พร้อมกันนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังจะเตรียมงบประมาณในการสนับสนุนอุปกรณ์ในการตรวจวัดอากาศ และมลพิษให้แก่อุตสาหกรรมจังหวัดต่างๆ เพื่อที่จะเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติหน้าที่ในการรับมือกับความเสี่ยงอุบัติภัยจากโรงงานอันตราย

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า ขณะนี้กนอ. กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และตัวแทนจากชุมชนได้มีการตรวจทานความเสี่ยงของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม 50-60 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 5 วัน

สำหรับความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้เสียชีวิต 11 รายในโรงงานบีเอสที อิลาสโตเมอร์ส ได้จ่ายเงินเบื้องต้นแก่ครัวเรือนที่เสียชีวิตแล้วรายละ 1 แสนบาท โดยก้อนที่เหลือ กนอ.จะเร่งรัดให้โรงงานจ่ายให้ครบอย่างรวดเร็วที่สุด ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บโรงงานได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลและให้เงินค่าทำขวัญรายละ 3,000 บาท

ส่วนกรณีของความเสียหายโรงงานที่ระเบิดเบื้องต้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,500-1,700 ล้านบาท ซึ่งโรงงานบีเอสทีฯ ได้ทำประกันแบบครบวงจรแล้วจึงไม่มีปัญหา โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอเคลมประกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น