xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนเซ็ง กม.ฟอกเงิน 2 ฉบับสะดุด “มาร์ค” ตำหนิ “รบ.ปู” เร่งดัน กม.ปรองดอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปธ.หอการค้าฯ เผยที่ประชุม กกร.กังวลสถานการณ์การเมืองกระทบร่างกฎหมายฟอกเงิน 2 ฉบับ “อภิสิทธิ์” ยันพรรค ปชป.หนุนเร่งออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์ของชาติ แต่ถูกรัฐบาลเร่งผลักดันกฎหมายปรองดองเข้ามาขวาง พร้อมแนะรัฐบาลปูควรถอย และเปิดทางให้กฎหมายที่จำเป็นเร่งด่วนพิจารณาก่อน

นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย ว่า ที่ประชุมได้เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หารือเกี่ยวกับการผลักดันร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ซึ่ง กกร.ต้องการให้รัฐสภาพิจารณาให้เสร็จภายในเดือนมกราคม 2556 ก่อนที่คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (FATF) จะมีการประกาศอันดับประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2556

โดยเมื่อช่วงต้นปีนี้ FATF ได้จัดประเทศไทยอยู่ในบัญชีดำ ซึ่งหากไทยสามารถบังคับใช้กฎหมายได้ทัน คณะทำงานฯ จะถอนรายชื่อประเทศไทยออกจากบัญชีดังกล่าวในการทบทวนต้นปี 2556 ซึ่งทาง กกร.มีกังวลว่า ถ้าไทยถูกจัดให้อยู่ในบัญชีดำประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายจะทำให้ส่งผลกระทบ 3 ด้าน ดังนี้

1. การค้าระหว่างประเทศและภาคบริการจะมีปัญหาเมื่อผู้ประกอบการต้องโอนเงินไปต่างประเทศ โดยสถาบันการเงินต่างประเทศจะสอบถามผู้โอนเงินว่าเป็นใคร และผู้ประกอบการอาจต้องแจ้งรายชื่อผู้ถือหุ้นทั้งหมดเพื่อชี้แจงว่ามีใครเกี่ยวข้องกับธุรกิจ ซึ่งจะทำให้การทำธุรกิจมีขั้นตอนในการตรวจสอบมากและเสียเวลา

2. การออกไปทำธุรกรรมการเงินหรือขอสินเชื่อจากต่างประเทศจะได้รับผลกระทบ โดยสถาบันการเงินในต่างประเทศจะตรวจสอบมากขึ้นว่าปล่อยกู้ให้ใคร และขณะนี้ผู้ประกอบการบางรายเริ่มมีปัญหาขอสินเชื่อจากธนาคารในฝรั่งเศสแล้วถูกระงับ

3. หากไทยถูกยกระดับให้อยู่ในบัญชีดำจะส่งผลให้การทำธุรกรรมทางการเงินของคนไทยในต่างประเทศ โดยบัตรเครดิตของธนาคารไทยอาจถูกปฏิเสธจากร้านค้าในต่างประเทศ

ทั้งนี้ ที่ประชุม กกร.เห็นว่าปัญหาดังกล่าวไม่ควรปล่อยให้เกิด รวมทั้งเห็นว่ารัฐบาลและฝ่ายค้านควรร่วมกันผลักดันร่าง พ.ร.บ. 2 ฉบับนี้ เพราะที่ผ่านมาไทยผ่อนผันออกกฎหมายมานานแล้ว โดยไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรกับการพิจารณาร่างกฎหมายในสภาผู้แทนราษฎรก็เห็นว่าไทยอยู่ในสังคมโลกที่ต้องการความโปร่งใส โดยทาง กกร.จะติดตามการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้ชี้แจงให้ที่ประชุม กกร. ทราบว่าพรรคได้ผลักดันเรื่องนี้ต่อเนื่องมาตั้งแต่เป็นรัฐบาล จึงไม่มีสาเหตุที่พรรคจะคัดค้านร่างกฎหมาย 2 ฉบับนี้

“ยืนยันว่าพรรคเราจะให้ความร่วมมือในสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ภาคเอกชนต้องการ เพื่อให้กฎหมายประกาศใช้ในเดือนมกราคม 2556 โดยร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับต้องเร่งประกาศใช้เพราะกฎหมายของไทยหย่อนกว่าหลายประเทศ ซึ่งอาจทำให้การทำธุรกรรมของภาคเอกชนมีปัญหา ไม่สะดวก”

ทั้งนี้ หากรัฐบาลนำเรื่องยุ่งยากในสภาผู้แทนราษฎร หรือปมขัดแย้งออกไป จะทำให้การพิจารณาร่างกฎหมายหลายฉบับทันตามกำหนด โดยพรรคฯ ได้ยกมือสนับสนุนร่างกฎหมายของรัฐบาลหลายฉบับ เช่น ร่างข้อตกลงระหว่างประเทศ แต่ถ้ารัฐบาลนำวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่าง พ.ร.บ.ปรองดองมาขวางไว้แล้ว ก็ควรนำพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน หรือนัดประชุมเฉพาะเรื่องเร่งด่วน เพราะสภาผู้แทนราษฎรควรปิดสมัยประชุมมาตั้งแต่สงกรานต์แล้ว แต่รัฐบาลขยายมาเพื่อพิจารณาปรับปรุงรัฐธรรมนูญและร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง แต่ถ้าถอยไปก่อนจะทำให้การพิจารณากฎหมายอื่นในสภาผู้แทนราษฎรง่ายขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น