“กรณ์” ยัน ปธ.สภาฯ เจตนา “หักดิบ” พ.ร.บ.ล้างผิด หวังผูกมัดรัฐบาลคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านให้ “ทักษิณ” เผย “ปู” แหยงไม่กล้าเสนอสภาฯเอง เหตุมีส่วนได้เสีย 900 ล้านบาท วอนเลิกเรียกว่า พ.ร.บ.ปรองดอง พิสูจน์ชัดเป็นกฎหมายสร้างความแตกแยก ทำลายระบอบการปกครองของประเทศ สังคมไทยไม่ได้ประโยชน์นอกจากทักษิณได้เงินคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 31 พ.ค. เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Korn Chatikavanij ตามข้อความดังนี้..
ผมขอขอบคุณทุกๆคนที่ออกมาช่วยกันแสดงจุดยืนต่อต้านกฎหมาย'ล้างผิดที่หน้าสภาฯวันนี้ครับ ต้องขอบอกว่า 'เกินความคาดหมาย' ของฝั่งทักษิณที่คิดว่าจะลักไก่นำเรื่องนี้ผ่านสภาฯไปได้ง่ายๆ ที่สำคัญความเข้มแข็งนอกสภาฯมีผลต่อการทำงานของเราในสภาฯอย่างมาก
ผมได้เขียนบรรยายเหตุผลที่เราต้องต่อสู้เรื่องนี้แล้วเมื่อเช้านี้ และวันนี้เราได้ชี้ให้สภาฯได้เห็นว่าร่างกฎหมายฉบับนี้เป็น 'กฎหมายการเงิน' ซึ่งหมายความว่าใครจะเสนอเข้ามาให้สภาฯพิจารณาไม่ได้ ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเสนอเท่านั้น พ.ร.บ. ล้างผิดนั้นเป็น 'กฎหมายการเงิน' เพราะมีผลผูกมัดรัฐบาลที่ต้องใช้เงินภาษีจ่ายคืนทักษิณ 46,000 ล้านบาทหลังจากล้างความผิดที่ศาลฎีกาได้พิพากษาไว้แล้ว
แต่นายกฯ ไม่ยอมเสนอเพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากผู้ได้ประโยชน์คือพี่ชาย และตัวเองก็เคยอ้างไว้กับศาลด้วยว่ามีหุ้นอยู่ 20 ล้านหุ้น ราคาขายที่จะได้คืนเท่ากับ 900 กว่าล้านบาท ด้วยเหตุนี้นายกฯไม่กล้าลงนามแน่นอน
เมื่อดูเหมือนชี้แจงไม่ได้ เย็นวันนี้ 30 พ.ค. ประธานสภาฯจึงเจตนา 'หักดิบ' ด้วยการกดเรียกให้ลงมติโดยไม่ยอมฟังใครอีกต่อไป จึงเป็นเหตุให้เกิดปรากฏการส.ส.ฝ่ายค้านรุกไปประชิดประธานสภาฯ สุดท้ายรองประธานที่มาแทนจึงเห็นว่าควรยุติการประชุม ประชุมใหม่วันที่ 31 พ.ค.นี้
เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสภาฯ เป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี แต่กฎหมายฉบับนี้เลวร้ายมากต่อระบอบการปกครองของประเทศ แรงบันดาลใจในการต่อสู้ของประชาธิปัตย์สูงมากครับ และเราต้องสู้กับการถูกเสียงข้างมากรังแก
แค่วันนี้ก็เห็นแล้วครับ เลิกเรียกกฎหมายฉบับนี้ว่าเป็นพ.ร.บ. 'ปรองดอง' ได้แล้ว มีแต่ทำให้สังคมแตกแยก เพราะนอกจากทักษิณได้เงินคืน พร้อมปลอดจากคดีทุจริตอีกหลายคดีแล้ว ผมไม่เห็นว่าสังคมไทยได้อะไรเลย
แต่ทั้งหมดยังพึ่งเริ่ม วันนี้ทุกคนที่สละเวลาไป ทนแดดทนฝน ควรภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ภาระกิจมีต่อ การปกป้องความถูกต้องไม่ใช่เรื่องง่ายครับ มันจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่า