xs
xsm
sm
md
lg

“เชียงการีลา” ยกเครื่องใหญ่ ชูอาหารจีนสู้ “กิมจิ-ซูชิ” ตีตลาด พร้อมปั้นรากูมิลุยอาหารญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บัญชา พจชมานะวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัตตาคารแกรนด์เชียงการีลา จำกัด
“เชียงการีลากรุ๊ป” ขาใหญ่ร้านอาหารจีน ปีนี้ทุ่ม 10 ล้านบาทมากสุด ปรับตัวสู้เทรนด์อาหาร เกาหลี-ญี่ปุ่นฟีเวอร์ตีตลาด ผุดร้านญี่ปุ่นแบรนด์ใหม่ “รากุมิ” สู้ รวมทั้งดันโมเดลคิตเชนรุกช่องทางศูนย์การค้าขยายตลาดกลุ่มวัยรุ่น ปรับโฉมร้านมิรากุสไตล์ปิ้งย่างลุยอีก

นายบัญชา พจชมานะวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัตตาคารแกรนด์เชียงการีลา จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร เปิดเผยว่า จากกระแสความนิยมร้านอาหารเกาหลีและอาหารญี่ปุ่นที่มาแรงมากในช่วงหลายปีมานี้ มีอัตราการเติบโตทั้งด้านยอดขายและการขยายสาขาอย่างรวดเร็วตามศูนย์การค้า ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจร้านอาหารจีนเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยังเป็นโชคดีของทางกลุ่มเชียงการีล่าที่ยังไม่มีสาขาร้านอาหารในเครือทั้งหมด เปิดบริการอยู่ตามศูนย์การค้ามากนัก มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงเท่าใด

แต่ทั้งนี้ บริษัทฯ จำเป็นที่จะต้องปรับตัวรองรับเทรนด์ดังกล่าวเพื่อเป็นการรักษาส่วนแบ่งตลาดอาหารจีนเอาไว้ โดยปีนี้มีแผนลงทุนประมาณ 10 ล้านบาทซึ่งถือได้ว่ามากที่สุดในรอบหลายปีของบริษัทฯ เพื่อการปรับปรุงสาขาเก่า และการขยายแบรนด์ใหม่ และสาขาใหม่

ปัจจุบันมีร้านอาหาร 4 แบรนด์ คือ 1. ภัตตาคารเชียงการีลา 3 สาขา ที่ธนิยะ สีลม เยาวราช, 2. เชียงการีลาคิทเช่น ที่ช่องนนทรี, 3. ร้านมิรากุปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่ธนิยะพลาซ่า และ 4. ร้านมิราม่าฮอทพอท ที่สีลมชอปปิ้งพลาซ่า รวม 6 สาขา

โดยล่าสุดได้ลงทุนประมาณ 3 ล้านบาทเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ใหม่ที่ 5 ชื่อ “รากุมิ” สาขาแรกที่อาคารญาดา ชั้น 6 ถนนสีลม เป็นอาหารประเภทเทปันยากิ ซูชิ ข้าวปั้น เป็นต้น พื้นที่ 50 ที่นั่ง ได้รับการตอบรับดีหลังเปิดมา 2 เดือนแล้วเพื่อต้องการตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคที่รับประทานอาหารญี่ปุ่น และเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้ร้านค้าด้วย นอกจากนั้นจะปรับปรุงร้านอาหารมิรากุให้มีความทันสมัยมากขึ้น

อีกทั้งจะขยายร้านเชียงการีลาคิทเช่น 1 สาขาในศูนย์การค้าในปีนี้ ซึ่งแบรนด์นี้จะเป็นแบรนด์ที่ร้านจะใช้รุกตลาดเข้าศูนย์การค้ามากขึ้น เพราะพื้นที่น้อยประมาณ 80-120 ตารางเมตร ลงทุนปประมาณ 2-3 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในอดีตเคยนำแบรนด์นี้ขึ้นห้างมาแล้วที่เทสโก้โลตัสพลัสศรีนครินทร์ ปัจจุบันได้ปิดตัวไปแล้ว รวมทั้งจะปรับปรุงร้านมิรากุให้มีความทันสมัยและเพิ่มพื้นที่อีกรองรับเทรนด์อาหารปิ้งย่าง

บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ด้วยการเปิดตัวเมนูใหม่ๆ ที่แปลกๆ โดยเฉพาะเครื่องดื่ม รวมทั้งการจัดทำโปรโมชันเพื่อดึงดูดลูกค้า จากปัจจุบันมีกลุ่มวัยรุ่นน้อยมากแค่ 5% เท่านั้น จากเดิมกลุ่มหลักคือ ผู้ใหญ่ ครอบครัว และคนทำงานบริษัท รวมทั้งกลุ่มทัวร์ต่างชาติด้วย

สำหรับค่าใช้จ่ายของลูกค้าที่เข้าร้าน หากเป็นภัตตาคารเฉลี่ย 250 บาทต่อคน แบบคิตเชนเฉลี่ย 150 บาทต่อคน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังไม่มีแผนปรับราคาขึ้นในขณะนี้เนื่องจากยังแบกรับภาระต้นทุนได้แม้ว่าซัปพลายเออร์จะปรับราคากับเราไปบ้างแล้วหลายรายไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งบริษัทฯ ปรับราคาล่าสุดเมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา

นายบัญชากล่าวต่อด้วยว่า ในช่วงเทศกาลบะจ่างปีนี้ เริ่มวันที่ 23 พฤษภาคม-23 มิถุนายน บริษัทฯ ได้ทำบะจ่างจำหน่ายเหมือนทุกปี โดยปีนี้เพิ่มไส้ใหม่คือ ไส้ปลาผัดซอสเอ็กซ์โอ จากเดิมที่มี 7 ไส้ และยังไม่ได้ปรับราคาขึ้น ปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ประมาณ 22,000 ลูก จากปีที่แล้วจำหน่ายใกล้เคียงกัน ซึ่งตลาดจะคึกคักในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเทศกาล บริษัทฯ จะจำหน่ายที่ 3 สาขา คือ ภัตตาคารเชียงการีลา ธนิยะ สีลม และเยาวราช

สำหรับยอดขายปีนี้ของทั้งกลุ่ม บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 5-10% จากปีที่แล้วที่เติบโต 7% ด้วยยอดขายรวมมากกว่า 30-40 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น