ASTVผู้จัดการายวัน – “โออิชิ” ห้าว ปรับแผนลงทุนมากขึ้น ทุบสถิติใหม่ปีนี้ในรอบ 13 ปี ทุ่ม 600 ล้านบาท ผุดสาขาใหม่เพิ่มเป็น 60 สาขาจากเดิม 30 สาขา ทุ่มงบเพิ่มเป็น 600 ล้านบาท ลั่นได้พื้นที่แน่นอนเซ็นสัญญาแล้ว 40 แห่ง เล็งผุดครัวกลางใหม่อีก 450 ล้านบาท
นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนธุรกิจปี 2555 ว่า ธุรกิจค้าปลีกทั้งศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์มีการขยายตัว รวมทั้งการรุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย ทำให้บริษัทฯปรับแผนการลงทุนจะเพิ่มการขยายสาขาเป็น 60 สาขา จากเดิมวางแผนไว้ 30 สาขา หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว ต้องใช้งบลงทุนเพิ่มเป็น 600 ล้านบาท จากเดิม 450 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้เซ็นสัญญากับเจ้าของพื้นที่ไปแล้วกว่า 40 สาขา
แนวโน้มเศรษฐกิจในภาพรวมปีนี้ถือว่าน่าจะดี โดยเฉพาะภาพรวมธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นที่จะเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 15% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 10,000 ล้านบาท อีกทั้งเราได้ทำเลที่ดีมากต่อการขยายสาขา ประกอบกับศักยภาพธุรกิจร้านอาหาร และแบรนด์ร้านอาหารของเราเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค จึงทำให้เราสามารถขยายสาขาได้มากขึ้น
จากเดิมบริษัทเปิดสาขาใหม่เฉลี่ย 15-20 สาขาต่อปีเท่านั้น ใช้งบลงทุนประมาณ 200-250 ล้านบาท และนับเป็นสถิติใหม่ที่สูงที่สุดในรอบ 13 ปีของการขยายสาขาแต่ละปีด้วย อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารที่จะเปิดมีทั้งแบรนด์เดิมและแบรนด์ใหม่ซื้อสิทธิ์และการพัฒนาเองด้วย
นอกจากนี้จะขยายครัวกลางเพิ่มรองรับการเติบโต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหาทำเลที่เหมาะสมและต้องคำนึงถึงทำเลที่ปลอดภัยต่อน้ำท่วมด้วย เบื้องต้นศึกษาทำเลใน จ.สระบุรี และ จ.นครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานในนวนคร เพื่อสร้างเป็นครัวกลางสูง 3 ชั้นใช้งบลงทุนประมาณ 450 ล้านบาท แต่บริษัทยังไม่สามารถสรุปทำเลที่จะขยายครัวกลางเพิ่มได้ เพราะรัฐบาลยังไม่สามารถสรุปพื้นที่ฟลัดเวย์ที่จะดำเนินการได้
ด้านแผนตลาดปีนี้จะใช้งบ 300 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมทางการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เพราะเป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรงและสร้างแบรนด์สินค้าได้ดี
ปัจจุบันโออิชอมีร้านอาหารในเครือรวม 138 สาขา คือ โออิชิ แกรนด์, โออิชิ บุฟเฟต์, โออิชิ เอ็กซ์เพรส, ชาบูชิ, โออิชิ ราเมน, โออิชิ ซูชิ บาร์, ล็อกโฮม , ไมโดะ โอคินิ, และ คะโซคุเต
บริษัทฯอาจต้องปรับเป้าหมายรายได้รวมของธุรกิจอาหารสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันจากเดิมวางเป้าหมายการเติบโต 27% แต่เพราะแผนงานเชิงรุกทั้งการขยายสาขาเพิ่มขึ้นและการตลาดที่ต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่ารายได้รวมช่วง 2 เดือนที่ผ่านมายังมีอัตราการเติบโตไม่ดีนัก เพราะโรงงานยังผลิตสินค้าไม่เต็มที่ 100% หลังได้รับผลกระทบน้ำท่วม แต่คาดว่าตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไปกำลังการผลิตจะกลับมาเต็ม 100%
นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนธุรกิจปี 2555 ว่า ธุรกิจค้าปลีกทั้งศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์มีการขยายตัว รวมทั้งการรุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย ทำให้บริษัทฯปรับแผนการลงทุนจะเพิ่มการขยายสาขาเป็น 60 สาขา จากเดิมวางแผนไว้ 30 สาขา หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว ต้องใช้งบลงทุนเพิ่มเป็น 600 ล้านบาท จากเดิม 450 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้เซ็นสัญญากับเจ้าของพื้นที่ไปแล้วกว่า 40 สาขา
แนวโน้มเศรษฐกิจในภาพรวมปีนี้ถือว่าน่าจะดี โดยเฉพาะภาพรวมธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นที่จะเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 15% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 10,000 ล้านบาท อีกทั้งเราได้ทำเลที่ดีมากต่อการขยายสาขา ประกอบกับศักยภาพธุรกิจร้านอาหาร และแบรนด์ร้านอาหารของเราเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค จึงทำให้เราสามารถขยายสาขาได้มากขึ้น
จากเดิมบริษัทเปิดสาขาใหม่เฉลี่ย 15-20 สาขาต่อปีเท่านั้น ใช้งบลงทุนประมาณ 200-250 ล้านบาท และนับเป็นสถิติใหม่ที่สูงที่สุดในรอบ 13 ปีของการขยายสาขาแต่ละปีด้วย อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารที่จะเปิดมีทั้งแบรนด์เดิมและแบรนด์ใหม่ซื้อสิทธิ์และการพัฒนาเองด้วย
นอกจากนี้จะขยายครัวกลางเพิ่มรองรับการเติบโต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหาทำเลที่เหมาะสมและต้องคำนึงถึงทำเลที่ปลอดภัยต่อน้ำท่วมด้วย เบื้องต้นศึกษาทำเลใน จ.สระบุรี และ จ.นครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานในนวนคร เพื่อสร้างเป็นครัวกลางสูง 3 ชั้นใช้งบลงทุนประมาณ 450 ล้านบาท แต่บริษัทยังไม่สามารถสรุปทำเลที่จะขยายครัวกลางเพิ่มได้ เพราะรัฐบาลยังไม่สามารถสรุปพื้นที่ฟลัดเวย์ที่จะดำเนินการได้
ด้านแผนตลาดปีนี้จะใช้งบ 300 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมทางการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เพราะเป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรงและสร้างแบรนด์สินค้าได้ดี
ปัจจุบันโออิชอมีร้านอาหารในเครือรวม 138 สาขา คือ โออิชิ แกรนด์, โออิชิ บุฟเฟต์, โออิชิ เอ็กซ์เพรส, ชาบูชิ, โออิชิ ราเมน, โออิชิ ซูชิ บาร์, ล็อกโฮม , ไมโดะ โอคินิ, และ คะโซคุเต
บริษัทฯอาจต้องปรับเป้าหมายรายได้รวมของธุรกิจอาหารสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันจากเดิมวางเป้าหมายการเติบโต 27% แต่เพราะแผนงานเชิงรุกทั้งการขยายสาขาเพิ่มขึ้นและการตลาดที่ต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่ารายได้รวมช่วง 2 เดือนที่ผ่านมายังมีอัตราการเติบโตไม่ดีนัก เพราะโรงงานยังผลิตสินค้าไม่เต็มที่ 100% หลังได้รับผลกระทบน้ำท่วม แต่คาดว่าตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไปกำลังการผลิตจะกลับมาเต็ม 100%