“ลองฌอมป์” โหมหนักตลาดเอเชียแปซิฟิก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยันวิกฤตยุโรปไม่กระทบยอดขาย ป้อนคำหวานไทยตลาดเติบโตดี ล่าสุดผุดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกที่พารากอน พร้อมเล็งผุดเพิ่มอีก หวังดันไทยขึ้นแท่นที่ 2 เบียดสิงคโปร์ตกที่สามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นางมอลลี ฌองเดอดิเออร์ ผู้จัดการอาวุโสภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ลองฌอมป์ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มลองฌอมป์ในปีนี้จะยังคงมุ่งเน้นและให้ความสำคัญต่อการทำตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่และมีแนวโน้มเติบโตดีเช่นเดียวกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาวิกฤตที่เกิดขึ้นในยุโรปช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและยอดขายกลุ่มสินค้าของบริษัทเท่าใดนัก เพราะยังคงมียอดขายเติบโตที่ดีเป็นตัวเลข 2 หลักต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทมุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเข้าสู่ตลาดด้วยราคาขายที่เหมาะสม และรูปแบบของสินค้าก็เน้นการผลิตไปที่ลักษณะเฉพาะเจาะจงเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคนิยมมีกระเป๋าถือหลายแบบด้วย จึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในประเทศไทย พื้นที่ 73 ตร.ม. บริเวณชั้น 1 ของศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโดยเฉพาะลูกค้าคนไทยที่ชื่นชอบแบรนด์นี้ โดยสัดส่วนลูกค้าแบ่งเป็นคนไทย 60% นักท่องเที่ยวต่างชาติ 40% โดยได้ทดลองเปิดบริการมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี แต่จากปัญหาน้ำท่วมปลายปีที่ผ่านมาจึงต้องเลื่อนการเปิดร้านอย่างเป็นทางการมาเป็นกลางปีนี้
บริษัทคาดว่าหลังจากที่เปิดแฟลกชิปสโตร์ในไทยแล้วและยังมีแผนที่จะเปิดแฟลกชิปสโตร์ภายในศูนย์การค้าอื่นๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีสินค้าคอลเลกชันใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยมียอดขายขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในอนาคตอันใกล้นี้ จากปัจจุบันมียอดขายเป็นอันดับ 3 รองจากอินโดนีเซีย และสิงคโปร์
“สินค้าของเราที่ขายในไทยจะมีราคาที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ เพราะกำแพงภาษีสินค้าแฟชั่นสูงประมาณ 30% แต่ก็ใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งอย่างอินโดนีเซีย ซึ่งมีกำแพงภาษีสูงถึง 40% จึงทำให้ราคาขายของเรายังสามารถสู้กับคู่แข่งได้ ” นางมอลลีกล่าว