xs
xsm
sm
md
lg

เซเรบอสเท 2 พัน ล.เพิ่มกำลังผลิตรังนก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เซเรบอสทุ่ม 2 พันล้านบาทขยายกำลังผลิตรังนก 3 เท่าตัว รับตลาดในประเทศ-ต่างประเทศโตพรวด อัด 40 ล้านบาทควงกลยุทธ์อีโมชันนัลมาร์เกตติ้ง เปิดตัวแอมบาสซาเดอร์ใหม่ “แอฟ-สงกรานต์” กระตุ้นเศรษฐกิจซบกระทบตลาดรังนกโตน้อย หวังอานิสงส์กระแสสุขภาพดันยอดขาย สิ้นปีโต 10% ใกล้เคียงกับตลาดรังนก 3 พันล้านบาท กวาดแชร์ 60% รั้งบัลลังก์ผู้นำตลาด

นางสาวลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ บริษัท เซเรบอส แปซิฟิก จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรังนกภายใต้แบรนด์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 2,000 ล้านบาทขยายกำลังการผลิตรังนกเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว ที่โรงงานปิ่นทอง บนพื้นที่ 34 ไร่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา จากปัจจุบันบริษัทมีโรงงานแหลมฉบังผลิตซุปไก่อีก 1 แห่ง ทั้งนี้เพื่อรองรับการขยายตัวตลาดในประเทศ และแผนการรุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งวางไว้ 3 ประเทศ ได้แก่ พม่า เวียดนาม และอินโดนีเซีย จากปัจจุบันส่งออก 70 ประเทศ
ทั้งนี้ โรงงานจะเริ่มกำลังผลิตใหม่เดือนตุลาคมนี้ โดยแบ่งการผลิตเป็น 3 เฟส ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่ต่ำกว่า 5 ปี

ภาพรวมตลาดรังนกมูลค่า 3,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าเติบโตไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดโตมากกว่า 10% อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเศรษฐกิจที่ไม่ดีปีนี้มีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคบ้าง แต่ขณะเดียวกันคนไทยก็มีพฤติกรรมที่สวนกระแสจากปัญหาความเครียดทำให้ต้องหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงตลาดให้เติบโตได้ ล่าสุดจึงได้ทุ่มงบ 40 ล้านบาทเปิดตัวแอมบาสซาเดอร์คู่ใหม่ “แอฟ-ทักษอร และสงกรานต์ เตชะณรงค์” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “คุณค่ารักแท้ คือการห่วงใยดูแลกัน” เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์และโพซิชันนิ่งของแบรนด์รังนก ด้วยการเป็นเครื่องดื่มที่สื่อแทนความรักแท้และความห่วงใยที่มีต่อกัน

“ผลพวงจากเศรษฐกิจที่ไม่ดีในปีนี้ ทำให้บริษัทต้องรุกตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ซุปไก่สกัด รังนก ฯลฯ ด้วยการจัดกิจกรรมการตลาดเชิงรุกโดยใช้สื่อใหม่ๆ อาทิ ดิจิตอล เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้วใส่ใจสุขภาพมากขึ้น”

สำหรับกลยุทธ์การตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงมุ่งเน้นอีโมชันนัลมาร์เกตติ้งมาใช้สร้างการจดจำ และความชื่นชอบของผู้บริโภค เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายกลุ่มคู่รักที่เริ่มต้นทำงานให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ฐานลูกค้ากลุ่มเดิมของแบรนด์รังนก โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่เริ่มเผยแพร่ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้

นอกจากนี้ บริษัทยังมีสื่อสนับสนุนอื่นๆ แบบ 360 องศา เช่น สื่อโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ ดิจิตอล เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายแบรนด์รังนกโต 10% ใกล้เคียงกับตลาด และตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่ง 60% ส่วนสก็อตรังนกมีส่วนแบ่งกว่า 30%
กำลังโหลดความคิดเห็น