“แอฟ” ยอมรับมีปากเสียงกับ “สงกรานต์” เพราะฝ่ายชายแสดงความคิดเห็นเรื่องจัดงานแต่งไม่ถูกใจ โต้ลงทุนปิดโรงแรมโบนันซ่าไม่รับแขกเพื่อเตรียมสถานที่จัดงาน บอกแค่ปรับปรุงบางส่วนให้เรียบร้อย เตรียมร่อนการ์ดเชิญแขกอาทิตย์หน้า
มีข่าวเม้าท์ว่าเตรียมจัดงานแต่งงานระดับช้าง สำหรับคู่รักคู่หวาน “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” และหนุ่ม “สงกรานต์ เตชะณรงค์” ถึงขนาดยังไม่ถึงฤกษ์ก็มีข่าวแล้วว่าหนุ่มสงกรานต์ลงทุนปิดโรงแรมโบนันซ่าเพื่อเตรียมสถานที่จัดงานซะแล้ว งานนี้ฝ่ายว่าที่เจ้าสาวจึงได้ออกมาโต้เองทันทีว่า…
“ข่าวว่าโบนันซ่าปิดเพื่อปรับปรุงเพื่อจะใช้จัดงาน อันนี้ไม่จริงเลยไม่ได้ปิดๆ ยังเปิดรับแขกตามปกติ แขกยังเต็มโรงแรมอยู่ มีแค่บางส่วนที่ปรับปรุงก็เพื่อความเรียบร้อย ตอนนี้ตื่นเต้นนิดหน่อย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงทัน ส่วนเรื่องชุดตอนนี้ก็ออกแบบครบแล้วค่ะ ก็ยังไม่เสร็จแต่มันก็มีไม่กี่ชุดแค่ 3 ชุดเอง เรื่องชุดไม่ได้นำเข้าจากเมืองนอกอะไรเลยค่ะ ใช้ดีไซเนอร์ไทย”
“เรื่องฟ้าฝนก็คงต้องสวดมนต์เอา (หัวเราะ)ก็จะจัดกลางแจ้ง ซึ่งงานที่เขาใหญ่จะเป็นครอบครัวสองครอบครัวและเพื่อนสนิทมากกว่า ไม่ได้เชิญคนเยอะเพราะเกรงใจแขกต้องเดินทางไปต่างจังหวัดและมันก็เช้ามาก เราก็ต้องมีฤกษ์ มีพิธีการแห่ขันหมากคือทำแบบไทยๆ”
“สำหรับเรื่องการ์ดเชิญก็คงต้องเสร็จภายในอาทิตย์นี้ เขาก็ตื่นเต้นมากกว่าแอฟอีก คือเราไม่ได้เข้าคอร์สเจ้าสาวเลย เอาเวลาไปทำงานก่อนดีกว่า (หัวเราะ) คือเราต้องเรียงลำดับความสำคัญอย่างการ์ดก็ต้องเสร็จก่อน ตอนนี้น้ำหนักก็ลดลงนิดนึงเพราะถ่ายละคร”
“ส่วนเรื่องทะเลาะกันก็มีบ้างเพราะว่าคิดไม่เหมือนกันในเรื่องของการจัดงาน คือความจริงก็เป็นแอฟเองแหละ ผู้ชายเขาจะแบบว่าอะไรก็ได้แล้วแต่ตามใจ แต่เราก็จะรู้สึกว่าทำไมไม่ช่วย ไม่อยากมีส่วนร่วมเลยหรอ แต่พอเขาออกความเห็นแล้วไม่ตรงก็เป็นเรื่องอีก (หัวเราะ) คือตอบไม่ถูกใจ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมเป็นปกติ อย่างที่บ้านเขาก็ช่วยประสานงานมีคนช่วยเยอะ พอแต่งเสร็จก็คงอยู่บ้านเดิมของเขาที่กรุงเทพไปก่อน เพราะว่าตอนนี้เรือนหอยังไม่ได้สร้าง”
“เรื่องลูกเขาก็เรียกร้องมานานแล้ว คือเขาพร้อมตั้งนานแล้ว สำหรับแอฟถึงมีลูกก็ยังทำงานได้ แต่ถ้ามีก็ต้องวางอนาคตใหม่ ใจลึกๆ เราก็อยากใช้ชีวิตด้วยกันก่อนสักพักแล้วค่อยมี กรานต์เขาใจร้อน (หัวเราะ) แต่ก็มองว่าวัยตัวเองก็สมควรจะมีลูกได้แล้วนะ เพื่อนๆ ก็มีกันหมดแล้ว ส่วนงานในวงการเขาก็แล้วแต่เราว่าอยากจะทำต่อไปไหม”