ทอท.เผยจ่ายชดเชยเสียงสุวรรณภูมิต่อเนื่อง แต่พบปัญหาที่ทำให้ล่าช้า มีทั้งเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ยอมรับราคาหลังประเมิน รวมถึงเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ไม่ครบถ้วนและไม่ถูกต้อง ยืนยันพร้อมเร่งจ่ายชดเชยเสร็จเร็วที่สุดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนรอบสนามบิน ล่าสุดจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 3,330,827,991.46 บาท
ว่าที่เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยถึงการดำเนินการจ่ายเงินชดเชยผู้ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ว่า ขณะนี้ ทอท.ได้มีการจ่ายค่าชดเชยไปแล้วทั้งสิ้นเป็นเงิน 3,330,827,991.46 บาท โดยเดือนพฤษภาคม 2555 จ่ายชดเชยเป็นเงิน 192 ล้านบาทเศษ
ส่วนการที่มีผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงร้องเรียนถึงความล่าช้าในการดำเนินงานของ ทอท.นั้น ที่ผ่านมาได้มีการเร่งรัดการจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงมาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากมีปัญหาบางประการ เช่น เจ้าของกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ NEF มากกว่า 40 ที่ต้องการขาย และ ทอท.ได้ให้บริษัทที่ปรึกษาประเมินราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแล้วแต่เจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ยอมรับหลักเกณฑ์การประเมิน, ไม่สามารถติดต่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ NEF 30-40 ได้, เจ้าของกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ NEF 30-40 ไม่ยอมรับราคาประเมินเพื่อการปรับปรุงอาคาร, ปัญหาในเรื่องเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ และเจ้าของกรรมสิทธิ์เตรียมเอกสารสิทธิประกอบการรับเงินไม่ครบถ้วน-ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ ทอท.ได้เร่งดำเนินการชดเชยผลกระทบด้านเสียงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในชุมชนใกล้เคียง เพื่อผลักดันให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคควบคู่ไปกับการเป็นท่าอากาศยานที่ใกล้ชิดและเป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่สุดของชุมชนใกล้เคียง รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่มีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อไป
โดยหลังจากเปิดให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2549 และประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบด้านเสียงจาก ทสภ. ซึ่ง ทอท.ตระหนักในความเดือดร้อนของประชาชนและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เร่งรัดดำเนินการประเมินราคาค่าปรับปรุงอาคารให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 29 พฤษภาคม 2550 เรื่องหลักเกณฑ์การประเมินอาคาร/ที่พักอาศัยของผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงของ ทสภ.และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2553 เกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงาน ณ ทสภ.กรณีการบินในช่วงฤดูหนาว ซึ่งในปัจจุบันมีรายละเอียดความคืบหน้าการดำเนินการ ดังนี้
1. พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ NEF มากกว่า 40 ที่ก่อสร้างก่อนปี 2544 จำนวน 646 อาคาร ให้ ทอท.เจรจาซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สำหรับเจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารที่ไม่ต้องการขายให้ ทอท.จ่ายเงินค่าปรับปรุงอาคารและสิ่งปลูกสร้างให้ไปดำเนินการเอง แบ่งเป็น
1.1 กลุ่มที่ต้องการขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มีจำนวน 204 อาคาร ทอท.ได้จ่ายเงินชดเชยเรียบร้อยแล้ว 136 อาคาร เป็นเงินจำนวน 528,508,389.43 บาท คิดเป็นร้อยละ 66.67 และอยู่ระหว่างการซื้อขาย 46 อาคาร นอกจากนั้นอยู่ระหว่างการดำเนินการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
1.2 กลุ่มที่ต้องการปรับปรุงอาคารเพื่อลดผลกระทบทางด้านเสียง มีจำนวน 442 อาคาร ทอท.ได้จ่ายเงินชดเชยเรียบร้อยแล้ว 385 ราย เป็นเงินจำนวน 101,892,781.86 บาท คิดเป็นร้อยละ 87.10 นอกจากนั้นอยู่ระหว่างการดำเนินการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
2. พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ NEF 30-40 ที่ก่อสร้างก่อนปี 2544 จำนวน 15,040 อาคาร ให้ ทอท.ดำเนินการจ่ายเงินค่าปรับปรุงอาคาร ซึ่ง ทอท.ได้จ่ายเงินค่าปรับปรุงอาคารแล้วรวม 10,145 อาคาร เป็นเงินจำนวน 2,001,953,227.92 บาท คิดเป็นร้อยละ 67.45 อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสาร 2,248 อาคาร นอกจากนั้นอยู่ระหว่างการดำเนินการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนั้น ทอท.ยังได้สนับสนุนงบประมาณการศึกษาวิจัยแก่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง เป็นเงิน 214,000,000 บาท และจ่ายค่าชดเชยให้แก่สถานที่ที่อ่อนไหวต่อผลกระทบด้านเสียง โดยจ่ายค่าชดเชยเพื่อการปรับปรุงอาคารแล้วจำนวน 21 แห่ง เป็นเงิน 292,536,592.25 บาท และ ทอท.ยังได้ดำเนินการจ่ายเงินค่าชดเชยอย่างต่อเนื่อง