ส.อ.ท.เร่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์คลอดกฎหมายปราบปรามการฟอกเงินและกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เสร็จก่อนเดือนกุมภาพันธ์ 56 เพื่อให้ FATF ปลดล็อกไทยออกจากบัญชีเฝ้าระวังสูงสุดการฟอกเงิน ชี้ขณะนี้เริ่มมีผลกระทบการทำธุรกรรมด้านการเงินบ้างแล้ว หวั่นปล่อยไว้อาจบานปลาย
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้หารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระหว่างการเดินทางร่วมคณะไปเยือนบาห์เรนและกาตาร์ถึงข้อกังวลภาคเอกชนต่อกรณีที่คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือ (FATF) ขึ้นบัญชีเฝ้าระวังสูงสุดประเทศไทยในเรื่องของการฟอกเงิน (Dark Grey List) ที่เริ่มมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจแล้ว ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐบาลเร่งผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เสร็จก่อนเดือนกุมภาพันธ์ 56 ที่ FATF จะทบทวนสถานะไทยอีกครั้ง
“กรณีดังกล่าวเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว คือล่าสุดประเทศฝรั่งเศสมีสถาบันการเงินเคยให้การสนับสนุนโครงการอุตสาหกรรมสีเขียวแก่เอกชนไทยก็ยกเลิก บางแบงก์ก็เริ่มมีการขอข้อมูลเพิ่มเติมในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเงินต่างๆ ทำให้ต้องเสียเวลาจากเดิมเพิ่มขึ้น เรากังวลว่าถ้าปล่อยลุกลามจะเป็นเงื่อนไขในการกีดกันทางการค้าได้ ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีเองได้รับปากว่าจะเร่งออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว และเรื่องนี้ก็ได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว” นายพยุงศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องผลักดันกฎหมาย 3 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเงิน ทั้งร่างพระราชบัญญัติปราบปรามการฟอกเงิน ร่างพระราชบัญญัติป้องกันการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการก่อการร้าย และร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคู่ค้าเพื่อให้ FATF ปลดล็อกประเทศไทยออกจากบัญชีเฝ้าระวังสูงสุด ซึ่งรัฐบาลน่าจะผลักดันเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯหลังการประชุมงบประมาณเสร็จเพราะหากไม่เช่นนั้นอาจไม่ทัน