ม.สวนดุสิต เผยผลสำรวจ ปชช.ยินดีต้อนรับ คนบ้านเลขที่ 111 กลับสู่วงการเมืองอีกครั้ง 30 พ.ค.นี้ เพราะเชื่อว่า บางคนยังไม่เรื้อเวที อาจมีแรงกดดันปรับ ครม.แน่นอน เพื่อเข้าสู่วงจรอำนาจอีกครั้ง ขณะที่จำนวนไม่น้อย มองว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ เห็นแก่พวกพ้อง ไม่ได้ให้ความสำคัญ หรือนึกถึงประชาชนอย่างแท้จริง อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นอีก ควรเปิดโอกาสให้คนใหม่ๆ เข้ามาทำงาน พร้อมฝากให้คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าเป็นสำคัญ
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จากทั่วประเทศ จำนวน 2,952 คน ระหว่างวันที่ 1-5 พฤษภาคม 2555 กรณีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย (ทรท.) จำนวน 111 คน จะพ้นโทษการตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2555 นี้ ซึ่งอาจมีแรงกดดันในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้สมาชิกบางคนเข้ามาบริหารประเทศ
ทั้งนี้ ผลการสำรวจความเห็นของประชาชน อันดับ 1 มองว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีโอกาสได้กลับมาทำงานอีกครั้ง และต้องการให้นำความรู้ความสามารถที่มีมาช่วยพัฒนาบ้านเมืองหรือส่วนรวม 35.56% อันดับ 2 เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย เมื่อถูกยุติบทบาททางการเมืองครบ 5 ปีแล้ว สามารถที่จะกลับเข้ามามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง 22.49% อันดับ 3 การกลับมาครั้งนี้ อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในภาพรวม หรือเกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก 19.76%
อันดับ 4 ควรเปิดโอกาสให้นักการเมืองที่ทำงานอยู่ในปัจจุบันได้พิสูจน์ฝีมือ และแสดงผลงานให้เห็นก่อน 11.40% ส่วนอันดับ 5 เชื่อว่า ภายในพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง หรือตัวบุคคล ให้เหมาะสมกับนโยบายหรือแนวทางที่พรรคกำหนดไว้ 10.79%
เมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่า นักการเมืองบ้านเลขที่ 111 ที่พ้นโทษทางการเมืองมาแล้ว น่าจะเข้ามามีบทบาททางการเมืองหรือไม่ อันดับ 1 ตอบว่า ควรเข้ามามีบทบาททางการเมืองต่อ 37.06% เพราะเป็นกลุ่มบุคคลที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนเก่ง มีฝีมือ มีความรู้ความสามารถ เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป มีประสบการณ์ทางการเมืองมานาน
อันดับ 2 ไม่ควรเข้ามามีบทบาททางการเมือง 33.15% เพราะอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง หรือส่งผลให้สถานการณ์บ้านเมืองกลับมาวุ่นวายอีกครั้ง ควรยุติบทบาท หรือวางมือไปเลย อันดับ 3 ควรเข้ามามีบทบาทหรือไม่ควรเข้ามามีบทบาทก็ได้ 29.79% เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน ถึงจะเข้ามาหรือไม่เข้ามาคนส่วนใหญ่ก็ยังมองว่าเป็นนักการเมืองอยู่ดี
เมื่อถามว่า ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าจะมีการปรับ ครม.เพื่อให้บ้านเลขที่ 111 เข้ามาบริหารประเทศบ้างบางคน อันดับ 1 ตอบว่า เห็นด้วยจำนวน 38.37% เพราะนักการเมืองบางคนเคยเป็นรัฐมนตรี และมีประสบการณ์ทางการเมืองมานาน รัฐบาลจะได้บริหารบ้านเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะต้องมีความจริงใจ จริงจังในการทำงานเพื่อบ้านเมือง
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 34.62% เพราะมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ เห็นแก่พวกพ้อง ไม่ได้ให้ความสำคัญ หรือนึกถึงประชาชนอย่างแท้จริง อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง ทางการเมืองขึ้นอีก ควรเปิดโอกาสให้คนใหม่ๆ เข้ามาทำงาน อันดับ 3 เข้ามาก็ได้หรือไม่ต้องเข้ามาก็ได้27.01% เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย นักการเมืองกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีบทบาท และพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ฯลฯ
เมื่อถามว่า ประชาชนคิดอย่างไร เมื่อนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษ และมีผลต่อการเมืองไทยอย่างไร อันดับ 1 ตอบว่า การเมืองไทยคงจะเหมือนเดิม 45.38% เพราะนักการเมืองส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มคนหน้าเดิม ถึงแม้จะไม่มีนักการเมืองกลุ่มนี้ รัฐบาลและฝ่ายค้านก็ยังคงทะเลาะเบาะแว้ง ขาดความสามัคคี แบ่งฝักแบ่งฝ่าย การเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์
อันดับ 2 การเมืองไทยน่าจะดีขึ้น 29.71% เพราะถ้านักการเมืองเหล่านี้ ได้รับโอกาสให้เข้ามามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง ก็จะได้ใช้ความรู้ความสามารถที่มีช่วยกันบริหารบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า อันดับ 3 การเมืองไทยน่าจะแย่ลง 24.91% เพราะนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 เป็นกลุ่มที่เคยทำให้บ้านเมืองต้องวุ่นวาย อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งขึ้นได้ โดยเฉพาะเรื่องการปรับ ครม.ในเร็วๆ นี้
เมื่อถามถึง สิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอกนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 เกี่ยวกับการเมืองไทย คือ อันดับ 1 เมื่อพ้นโทษทางการเมืองแล้ว และมีโอกาสกลับเข้ามาทำงาน หรือเกี่ยวข้องทางการเมืองอีกครั้ง อยากให้คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าเป็นสำคัญ 60.65%
อันดับ 2 อยากให้นำเรื่องที่ถูกยุติบทบาททางการเมือง 5 ปี มาเป็นบทเรียนในการทำงานต่อไป ถึงแม้จะเข้ามาหรือไม่เข้ามาเกี่ยวข้องทางการเมืองก็ตาม 20.29% อันดับ 3 อยากให้เป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาช่วยสนับสนุน และให้ความสำคัญเรื่องของการสร้างความปรองดองในบ้านเมือง 12.44% และอันดับ 4 ควรยุติบทบาททางการเมืองหรือเลิกเล่นการเมืองไปเลย 6.62%
