“อภิสิทธิ์” ค้านปรับ “ยุทธศักดิ์” พ้น ครม. ระบุการแก้ปัญหาภาคใต้ต้องทำต่อเนื่อง หากต้องหลุดเก้าอี้กระทบคนในพื้นที่ สะท้อนรัฐไม่จริงใจ จี้ “ปู” แจงปรับ ครม.เพื่อประเทศ อย่าสนองความต้องการของพี่ชาย พร้อมเสนอให้ทบทวนนโยบายพลังงาน-พาณิชย์ บอกแม้ปรับตัวบุคคลแต่นโยบายไม่เปลี่ยนก็ไร้ประโยชน์ เตือนต่างชาติเริ่มวิจารณ์ภาวะผู้นำ เหตุจากการลอยตัวทุกเรื่อง แนะต้องรับผิดชอบต่อประชาชน หยุดเล่นบท “หนูไม่รู้”
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะมีการปรับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ตนคิดว่าไม่ควรจะปรับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ออกจากตำแหน่งเนื่องจาก ครม.พึ่งมีมติตั้งให้เป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหาภาคใต้ทั้งหมด ถ้าเพิ่งแต่งตั้งแล้วจะปรับออกก็คงเป็นเรื่องแปลกมาก แต่หากมีการปรับจริงก็คงไม่เป็นผลดีต่อการแก้ปัญหาเพราะการปรับ ครม.ควรที่จะเป็นการทำให้การบริหารดีขึ้นเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน ที่มีปัญหา ต้องเร่งแก้ไขไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีก็ตาม
ส่วนเรื่องภาคใต้ต้องการความต่อเนื่องทั้งนโนยายและทิศทาง ที่มีกฏหมายกำหนดอยู่แล้ว รัฐบาลควรเดินหน้าตามนี้ แต่ถ้าแต่งตั้งไปไม่ถึงเดือนแล้วปรับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ออกจะยิ่งส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนในพื้นที่ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาภาคใต้มากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรปรับเพราะจะทำให้เกิดความไม่แน่นอน
“ถ้านายกฯ จะปรับ ครม.ก็ต้องอธิบายเหตุผลว่าเพื่ออะไร แต่ถ้าเป็นการตอบแทนทางการเมืองที่พี่ชายไปสัญญากับใครไว้ก็คงไม่ใช่คำตอบที่สังคมรับได้ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงานถูกตั้งคำถามมากที่สุดเกี่ยวกับทิศทางการบริหารทั้งหมด และการดูแลการพื้นฟู ป้องกันปัญหาน้ำท่วม หากยังไม่เป็นรูปธรรมก็ควรมีการปรับปรุง ทั้ง 2 กระทรวงนี้ แม้จะเพิ่งผ่านการปรับรัฐมนตรีมาแต่นโยบายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง จึงควรทบทวนนโยบายมากกว่าตัวบุคคล”
ส่วนที่มีข่าวจะนำนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 มาร่วม ครม.นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยู่ที่ดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีว่าเห็นใครเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นคนในบ้านเลขที่ 111 หรือ 109 เพราะหลายคนต่างก็มีบบาทอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้อยู่ข้างหน้าเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยพูดว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกฯ จะเป็นบุคคลที่น่าสงสารที่สุด ผ่านมา 9 เดือนคิดว่าอยู่ในสถานะแบบไหน นายอภิสิทธิ์ยังยืนยันว่า การที่นายกฯ ถูกตีกรอบบทบาทหรือถูกกันออกในเรื่องสำคัญทุกเรื่องไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับส่วนรวม เพราะคนเป็นผู้นำของประเทศ ขาดกระบวนการรับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขี้น และตนบอกได้ว่าการวิจารณ์สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศหมู่คนไทย แต่ในต่างประเทศก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน ฉะนั้น นายกฯ ต้องเป็นตัวของตัวเอง ยืนยันสถานะของตนเอง กล้าที่จะรับผิดชอบเรื่องยากๆ ใหญ่ๆ ที่เป็นปัญหาของประชาชนขณะนี้มากกว่าที่จะยอมถูกจำกัดบทบาท
“วันนี้เรากำลังเขียนกติกาสูงสุดของประเทศใหม่ทั้งฉบับ แต่หัวหน้าฝ่ายบริหารไม่แสดงความเห็นหรือบอกกับประชาชนเลยว่ามีแนวคิดทิศทางอย่างไร วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจของแพง หรือปัหาภาคใต้คนอยากเห็นนายกฯ มีบทบาทมากขึ้น”
ผู้สื่อข่าวถามว่าระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์กับประเทศ สิ่งใดน่าสงสารมากกว่ากัน นายอภิสิทธิ์เพียงแต่ยิ้ม ไม่ตอบคำถามดังกล่าว
