นายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจยานยนต์ และอุตสาหกรรมจีน กล่าวในงานมุมเศรษฐกิจกับ ซี.พี.เรื่อง อาเซียน-จีน:โอกาสประเทศไทย ว่า บริษัทมีแผนจะลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ในไทยเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งขณะนี้ได้นำรถจักรยานยนต์ที่ผลิตในจีนมาทดสอบวิ่งบนถนนในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อประเมินจุดอ่อนจุดแข็งก่อนตัดสินใจ โดยรถจักรยานยนต์ของเครือ ซี.พี.มีจุดเด่นในเรื่องราคาที่ถูกกว่าราคาตลาด มั่นใจว่าได้ข้อสรุปในไตรมาส 3 นี้
โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะชิงส่วนแบ่งการตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยประมาณ 10% จากกำลังการผลิตรวมปีละ 2 ล้านคัน หรือคิดเป็นการผลิตปีละ 2 แสนคัน ขณะที่เครือ ซี.พี.มีกำลังการผลิตรถจักรยานยนต์ในจีนปีละ 1.6 ล้านคัน โดยส่งออก 30-40% ของกำลังการผลิต โดยธุรกิจนี้มีอัตราเติบโตปีละ 10%
นอกจากนี้ บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโต้โมบิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 1 ในจีนที่มียอดผลิตถึงปีละ 4 ล้านคัน ได้แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในไทย พร้อมกับเสนอให้ ซี.พี.เข้าร่วมทุนด้วย เบื้องต้นเป็นการผลิตรถยนต์แบรนด์ MG ซึ่งเป็นที่รู้จักในไทย และทางเซี่ยงไฮ้ ออโต้โมบิลมีแผนจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาเพื่อป้อนตลาดในไทย และส่งออกไปยังอาเซียนและออสเตรเลีย เบื้องต้นมีกำลังการผลิตอย่างน้อย 5 หมื่นคัน/ปี
นายธนากรกล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้จีนมีการพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่สิบปีนี้มีเพียง 2-3 ประเด็น คือ 1. การเมืองนิ่ง ทำให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจที่วางไว้มีการทำอย่างต่อเนื่อง ผิดกับไทยที่การเมืองเปลี่ยนแปลงตลอด 2. การพัฒนาคน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยจะเห็นว่าในช่วง 10 ปีนี้คนรุ่นใหม่ของจีนที่มีความรู้ และมีประสบการณ์เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จีนก็ประสบปัญหาสินค้าส่งออกถูกต่อต้านทั้งในยุโรป และสหรัฐฯ ทำให้รัฐบาลจีนต้องหันมาพึ่งพาตลาดในประเทศ และการส่งเสริมให้นักธุรกิจจีนหันไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งมองว่าไทยมีศักยภาพที่ดีมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เนื่องจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นนับตั้งแต่สถาบันกษัตริย์ของไทยกับรัฐบาลจีน ดังนั้น ไทยไม่ควรพลาดโอกาสนี้ในการดึงนักธุรกิจจีนมาลงทุนในไทยเพื่อใช้เป็นฐานในการผลิตเพื่อส่งออก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นว่ารัฐบาลไทยควรต้องเร่งดำเนินการ คือ 1. ให้ทุนนักเรียน นักศึกษาไปเรียนที่จีนปีละ 5 พันคน โดยส่งไปเรียนในทุกมณฑลไม่ใช่เฉพาะมณฑลใหญ่เท่านั้น เพื่อเรียนรู้ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และวิธีคิดมากกว่าการเรียนด้านภาษาเพียงอย่างเดียว เพื่อให้คนเหล่านี้เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคตเหมือนกับจีนที่ส่งคนไปเรียนที่สหรัฐฯ ปีละ 2 พันคน ซึ่งต่อมาคนเหล่านี้ก็มีบทบาทในการพัฒนาประเทศ 2. ขุดแม่น้ำเจ้าพระยา 2 จากชัยนาทมายังฝั่งตะวันออกเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยให้จีนที่มีเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการ
โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะชิงส่วนแบ่งการตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยประมาณ 10% จากกำลังการผลิตรวมปีละ 2 ล้านคัน หรือคิดเป็นการผลิตปีละ 2 แสนคัน ขณะที่เครือ ซี.พี.มีกำลังการผลิตรถจักรยานยนต์ในจีนปีละ 1.6 ล้านคัน โดยส่งออก 30-40% ของกำลังการผลิต โดยธุรกิจนี้มีอัตราเติบโตปีละ 10%
นอกจากนี้ บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโต้โมบิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 1 ในจีนที่มียอดผลิตถึงปีละ 4 ล้านคัน ได้แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในไทย พร้อมกับเสนอให้ ซี.พี.เข้าร่วมทุนด้วย เบื้องต้นเป็นการผลิตรถยนต์แบรนด์ MG ซึ่งเป็นที่รู้จักในไทย และทางเซี่ยงไฮ้ ออโต้โมบิลมีแผนจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาเพื่อป้อนตลาดในไทย และส่งออกไปยังอาเซียนและออสเตรเลีย เบื้องต้นมีกำลังการผลิตอย่างน้อย 5 หมื่นคัน/ปี
นายธนากรกล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้จีนมีการพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่สิบปีนี้มีเพียง 2-3 ประเด็น คือ 1. การเมืองนิ่ง ทำให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจที่วางไว้มีการทำอย่างต่อเนื่อง ผิดกับไทยที่การเมืองเปลี่ยนแปลงตลอด 2. การพัฒนาคน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยจะเห็นว่าในช่วง 10 ปีนี้คนรุ่นใหม่ของจีนที่มีความรู้ และมีประสบการณ์เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จีนก็ประสบปัญหาสินค้าส่งออกถูกต่อต้านทั้งในยุโรป และสหรัฐฯ ทำให้รัฐบาลจีนต้องหันมาพึ่งพาตลาดในประเทศ และการส่งเสริมให้นักธุรกิจจีนหันไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งมองว่าไทยมีศักยภาพที่ดีมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เนื่องจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นนับตั้งแต่สถาบันกษัตริย์ของไทยกับรัฐบาลจีน ดังนั้น ไทยไม่ควรพลาดโอกาสนี้ในการดึงนักธุรกิจจีนมาลงทุนในไทยเพื่อใช้เป็นฐานในการผลิตเพื่อส่งออก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นว่ารัฐบาลไทยควรต้องเร่งดำเนินการ คือ 1. ให้ทุนนักเรียน นักศึกษาไปเรียนที่จีนปีละ 5 พันคน โดยส่งไปเรียนในทุกมณฑลไม่ใช่เฉพาะมณฑลใหญ่เท่านั้น เพื่อเรียนรู้ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และวิธีคิดมากกว่าการเรียนด้านภาษาเพียงอย่างเดียว เพื่อให้คนเหล่านี้เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคตเหมือนกับจีนที่ส่งคนไปเรียนที่สหรัฐฯ ปีละ 2 พันคน ซึ่งต่อมาคนเหล่านี้ก็มีบทบาทในการพัฒนาประเทศ 2. ขุดแม่น้ำเจ้าพระยา 2 จากชัยนาทมายังฝั่งตะวันออกเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยให้จีนที่มีเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการ