xs
xsm
sm
md
lg

ไทยเทรด ดอทคอมรุ่ง ผู้ซื้อสนใจซื้อขายออนไลน์เพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรมส่งออกเผย ซื้อขายสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ thaitrade.com รุ่ง ผู้นำเข้าฮ่องกงสนใจสั่งซื้อสินค้าเพียบ แถมบางรายบินดูงานถึงเมืองไทย และขอพบผู้ส่งออกเพื่อหารือซื้อสินค้า ล่าสุดมีสมาชิกแล้วกว่า 3 พันราย เข้าชมสินค้ากว่า 4.5 แสนครั้ง

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยถึงการสร้างเครือข่ายของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 65 แห่งใน 43 ประเทศทั่วโลกเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาช่องทางการตลาดใหม่ๆ รวมถึงการสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับประเทศคู่ค้า ภายใต้นโยบายของนายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ว่า ตามที่กรมฯ ดูแลการส่งออกอย่างเดียว แต่ปัจจุบันได้ดูแลเรื่องการนำเข้าวัตถุดิบและเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดความสมดุลการค้าระหว่างประเทศนั้น กรมฯ ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ช่วยผู้ประกอบการไทยในการเสาะหาวัตถุดิบ สืบหาแหล่งลงทุนในสินค้า-บริการที่เหมาะสมต่อการขยายฐานทางธุรกิจให้มีศักยภาพทางการค้ายิ่งขึ้น

“เป็นที่คาดว่าปีนี้การจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างประเทศจะเพิ่มขึ้น ล่าสุดกรมฯ ได้สำรวจบางกิจกรรมการเจรจาการค้าเว็บไซต์ Thaitrade.com มีบริษัทในฮ่องกงแจ้งความสนใจสินค้าไทยกับบริษัทผู้ส่งออกที่เป็นสมาชิกออนไลน์รวม 16 ราย โดยมีการเจรจาสั่งซื้อทันที 1 รายในสินค้าข้าวหอมมะลิ และคาดว่าในช่วง 3 เดือนข้างหน้ามีอีก 3-5 บริษัทจะสรุปการสั่งซื้อสินค้าในกลุ่มข้าว ปลาทูน่ากระป๋อง น้ำมันพืช และสินค้าอุปโภค-บริโภคชนิดต่างๆ จำนวนมาก เช่น เครื่องดื่มสำเร็จรูป เส้นก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น” นางนันทวัลย์กล่าว

นายพอลล์ อลัน คาร์โดนา ผู้แทนบริษัท ไคลอง บิสซิเนส ดีเวลลอปเม้นท์ เซอร์วิส จำกัด (Cailong Business Development Service) ซึ่งเดินทางมาดูงานและเจรจาซื้อสินค้าไทยในคราวเดียวกัน กล่าวว่า บริษัทเป็นทั้งเทรดดิ้งและเป็นตัวแทนจัดหา จัดซื้อสินค้าให้แก่ลูกค้า ซึ่งกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในหลายตลาด เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และประเทศในตะวันออกกลางได้เยี่ยมชมเว็บไซต์ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทยเทรดดอทคอมแล้วจึงตัดสินใจเดินทางมาไทย โดยแจ้งความจำนงขอให้จัดเจ้าหน้าที่นัดหมายเจรจาธุรกิจ และเยี่ยมชมกิจการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวกติดต่อผู้ผลิต ผู้ส่งออก สมาชิกผู้ขายกว่า 10 บริษัทโดยใช้เวลาอันสั้น มีข้อมูลพร้อม ประกอบกับประเทศไทยมีสินค้าหลากหลายชนิดที่ลูกค้าต้องการ ทำให้เจรจากันด้วยความรวดเร็ว สามารถติดต่อและสั่งซื้อสินค้าได้ฉับไว ถือเป็นบริการที่น่าประทับใจในบริการที่มีคุณภาพมาก

นางนันทวัลย์กล่าวเสริมว่า กรมฯ ตระหนักถึงแนวโน้มการขยายตัวและมูลค่าการค้าออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นและขยายตัวอย่างรวดเร็ว ภายใต้แนวคิด “ซื้อขายทันใจ ไทยเทรดดอดคอม” โดยได้จัดทีมบุคลากรที่มีคุณภาพ มีความชำนาญภาษาอังกฤษ และมีประสบการณ์การค้าอิเล็กทรอนิกส์มาคอยให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ทีมงานจะสื่อสารข้อมูลและตอบสนองความต้องการซื้อจากต่างประเทศ พร้อมทั้งจัดทำนัดหมายเจรจาธุรกิจ ซึ่งจะมีทั้งการเจรจาแบบออนไลน์และออฟไลน์

ทั้งนี้ จำนวนผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์จนถึงปัจจุบันมีผู้เข้าชมประมาณ 450,000 ครั้ง จากผู้ขายที่ขึ้นทะเบียนสมาชิกไว้ 3,218 ราย โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจตามลำดับดังนี้ อาหารและเครื่องดื่ม ของขวัญของชำร่วยและงานหัตถกรรม เสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น โดยประเทศที่เข้าชมมากที่สุดคือ จีน รองลงมาเป็น อินเดีย เกาหลีใต้ สหรัฐฯ มาเลเซียน เวียดนาม ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เป็นต้น

“ทีมงานที่จัดไว้พร้อมช่วยวางแผนส่งเสริมด้านตลาด วิเคราะห์ข้อมูลการค้าที่ผู้ประกอบการควรรู้ และมีทีมผู้ช่วยขายทำหน้าที่ประสานงานซื้อ-ขายในระดับเบื้องต้น แทนกรณีที่ผู้ขายไม่สะดวก มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและการตลาดเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการก้าวสู่ธุรกิจออนไลน์ได้ด้วยตนเองอย่างมั่นคง” นางนันทวัลย์กล่าว

นอกจากนี้ ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน รายงานถึงโอกาสของธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ในประเทศจีนว่า จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ในจีนมีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็วมากกว่าสหรัฐฯ ที่มีธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยคาดว่าในปี 2558 จะมียอดขายจากการค้าปลีกออนไลน์มากกว่า 360 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจุบันจีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากถึง 200 ล้านคน เมื่อเทียบกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศใหญ่ๆ ทั่วโลก และคาดว่าจีนจะมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตถึง 700 ล้านคนในปี 2558 ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่น กับสหรัฐฯ รวมกัน

นางนันทวัลย์กล่าวว่า ในปัจจุบันนักธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงไม่เปลี่ยนการวางแผนด้านงบประมาณการตลาดเพื่อเข้าสู่โลกของธุรกิจออนไลน์ ดังนั้น นักธุรกิจไทยอาจใช้ช่องทางนี้เป็นช่องทางหนึ่งในการขยายตลาดสู่ตลาดค้าปลีกของจีน ตัวอย่างของบริษัทไทยที่ได้เข้ามาในธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ในประเทศจีน เช่น บริษัท อิเล็กโทรคอมโพเน็นส์ พีแอลซี ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และผลิตภัณฑ์ด้านการซ่อมบำรุงชั้นนำของโลก ที่มีหน้าร้าน “เสมือนจริง” บนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชั้นนำของประเทศจีน เช่น เว็บไซต์อาลีบาบา(Alibaba) และเถาเป่า (Taobao) เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นอยู่แล้วในตลาดผู้บริโภคกับผู้บริโภค (C2C) และธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) ในประเทศจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น