xs
xsm
sm
md
lg

“โฮมเฟรชมาร์ท-กูร์เมต์มาร์เกต” ได้เวลาโตนอกรั้วเดอะมอลล์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เดอะมอลล์รุกคืบขยายกลุ่มลูกค้านอกศูนย์ฯ ผุดโมเดลจับมือพันธมิตรร่วมทำธุรกิจซูเปอร์มาร์เกต หวังใน 5 ปีมีสัดส่วนรายได้ที่ 10% ของรายได้รวมซูเปอร์มาร์เกต หรือต่อปีขยายไม่ต่ำกว่า 3 สาขา ฟันธงกำลังซื้อครึ่งปีหลังเฟื่อง เหตุนโยบายปรับค่าครองชีพของภาครัฐหนุน มั่นใจรายได้รวมเดอะมอลล์กรุ๊ปโตไม่ต่ำกว่า 10% แม้ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มก็ตาม

นายไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากการขยายตัวของชุมชนเมืองสมัยใหม่ ทั้งศูนย์การค้าและคอมมูนิตีมอลล์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางบริษัทจึงมีนโยบายที่จะมุ่งขยายสาขาซูเปอร์มาร์เกตเพิ่มเติม เน้นเป็นความร่วมมือกับธุรกิจอื่นๆ นอกกลุ่มห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป โดยวางเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมเป็นหลัก เน้นการทำการตลาดผ่านแบรนด์กูร์เมต์มาร์เกต, โฮม เฟรชมาร์ท และฟูดฮอลล์

ขณะที่กลุ่มพันธมิตรที่ร่วมธุรกิจเปิดกว้างสำหรับทุกกลุ่ม ทั้งเจ้าของที่ดิน, โครงการบ้านจัดสรร, ศูนย์การค้า และคอมมูนิตีมอลล์ที่เปิดใหม่ ส่วนจะใช้แบรนด์ไหนนั้นต้องขึ้นอยู่กับศักยภาพของทำเล ที่สำคัญจะต้องมีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป ตั้งเป้าหมายต่อปีจะขยายเพิ่มที่ 3 สาขาเป็นอย่างน้อย หรือภายใน 5 ปีหลังจากนี้สัดส่วนรายได้จากซูเปอร์มาร์เกตนอกศูนย์ฯ จะอยู่ที่ 10% ของรายได้จากกลุ่มซูเปอร์มาร์เกตทั้งหมด

จากปัจจุบันรายได้จากกลุ่มซูเปอร์มาร์เกตอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนรายได้จากซูเปอร์มาร์เกตนอกศูนย์ฯ ยังไม่ถึง 5% โดยที่ผ่านมาเปิดให้บริการอยู่ 2 สาขา คือ สาขาแรกที่เค วิลเลจ สุขุมวิท 26 ของกลุ่มธุรกิจคณานันท์ ลงทุน 80 ล้านบาท พื้นที่ 1,900 ตารางเมตร มีสินค้ากว่า 20,000 รายการ, สาขาที่ 2 คือ กูร์เมต์ มาร์เกต ที่เทอร์มินัล 21 พื้นที่ 1,800 ตารางเมตร และล่าสุดกำลังจะเปิดให้บริการสาขาที่ 3 ที่เดอะพรอเมนาดย่านรามอินทรา ในเดือนพฤษภาคมนี้ พื้นที่กว่า 1,900 ตารางเมตร งบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปีแรกที่ 200 ล้านบาท

“การขยายสาขาซูเปอร์มาร์เกตนอกศูนย์ฯ จะเป็นแผนการพัฒนาธุรกิจกลุ่มซูเปอร์มาร์เกตก้าวต่อไปหลังจากนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อต้องการเข้าถึงกลุ่มบริโภคให้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดจำกัดในการขยายสาขาให้หลากหลายมากขึ้น ขณะที่ผู้ร่วมธุรกิจก็จะได้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจตามมา ทั้งในเรื่องของทราฟฟิก และราคาค่าเช่าพื้นที่ที่จะดีตามไปด้วย”

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม มองว่าปีนี้เป็นปีที่ดีสำหรับธุรกิจค้าปลีกโดยรวม เหตุกำลังซื้อจะมีเม็ดเงินมากขึ้น จากนโยบายการปรับค่าครองชีพของรัฐบาล ถึงแม้ว่าช่วงครึ่งปีหลังจะมีเรื่องของต้นทุนเพิ่มก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าไฟหรือค่าขนส่งที่อาจจะส่งผลต่อสินค้าที่คาดว่าจะปรับราคาเฉลี่ยขึ้นอีก 5% แต่ในภาพรวมแล้ว มั่นใจว่าทั้งปีกลุ่มธุรกิจซูเปอร์มาร์เกตของทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป จะเติบโตได้อีกอย่างน้อย 10% จาก 15,000 ล้านบาทที่ทำได้ในปีก่อน ซึ่งรายได้จากกลุ่มดังกล่าวคิดเป็น 30% ของรายได้รวมทั้งหมดของกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่ตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้โตขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10%
กำลังโหลดความคิดเห็น