ASTVผู้จัดการรายวัน-"ปู"มอบนโยบายลดตายช่วงสงกรานต์ สั่งทุกหน่วยงานเอ็กซเรย์จุดเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยง พร้อมคุมเข้มสวมหมวกกันน็อก ตรวจวัดแอลกอฮอล์ สกัดขับเร็ว แต่ที่พิจิตร ประเดิมทันควัน กระบะชนยับ ตาย 5 ศพ เจ็บ 2 ราย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการเป็นประธานมอบนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและเปิดการรณรงค์ "7 วัน 77 จังหวัด สงกรานต์ปลอดภัย" วานนี้ (11 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า รัฐบาลกำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ และขอให้ผู้บริหารหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรภาคีที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นในการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้
ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินงานเป็นพิเศษ โดยให้เอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ ทุกตำบล อำเภอ จังหวัด ต้องรู้ “จุดเสี่ยง หรือ ปัจจัยเสี่ยง” และมีระบบข้อมูลในแต่ละระดับ รวมทั้งมีพัฒนาการการแก้ไขปัญหา ซึ่งหากพื้นที่มีพัฒนาการดี นอกจากช่วยรักษาชีวิต และทรัพย์สินแล้ว ก็ควรได้รับการยกย่องเชิดชูและตอบแทนจากรัฐบาลและสังคม
ขณะเดียวกัน จะขยายปีแห่งการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยไปในปี 2555-2556 ตั้งเป้าเพิ่มอัตราผู้สวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อน อย่างน้อยร้อยละ 20 ของทั้งประเทศและรายจังหวัด รวมทั้งสถานที่ราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา และสถานประกอบการ มีนโยบายตรวจตราการสวมหมวกนิรภัย 100% ในพื้นที่และบุคลากรของตนอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ ให้บังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด ห้ามขายให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี ห้ามดื่มบนถนนสาธารณะและยานพาหนะ และการเพิ่มบทลงโทษผู้ปฏิเสธการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ให้ถือว่า “เมา” ทุกราย รวมทั้งสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีตรวจจับความเร็วมาช่วยหรือมาแทนตำรวจให้มากขึ้น และขอให้ปรับลดอัตราความเร็วในการขับขี่ในพื้นที่ชุมชนเมือง และท้องถิ่นต้องมีมาตรการกำหนดความเร็วในเขตชุมชนสำคัญ เช่น บริเวณตลาด หน้าโรงเรียน เพิ่มขึ้น
วันเดียวกันนี้ ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) พร้อมด้วยนายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 ซึ่งดำเนินการระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. เพื่ออำนวยการสั่งการและประสานการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยในปีนี้ได้เปลี่ยนชื่อโครงการจาก "7วันอันตราย" เป็น "สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์" เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกและพฤติกรรมผู้ขับขี่ใช้รถใช้ถนน รวมถึงลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิต
นายยงยุทธกล่าวว่า เพื่อช่วยกันรณรงค์ ให้บรรลุตามเป้าหมายสงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์ โดยกระทรวงมหาดไทย จะแจกรางวัลให้กับจังหวัดที่ไม่มียอดผู้เสียชีวิต หรือมีตัวเลขอุบัติเหตุเป็นศูนย์ รวมกับก่อนหน้านี้ ทางมูลนิธิเมาไม่ขับ ที่ได้ร่วมกับมูลนิธิรัฐบุรุษ ประกาศให้รางวัลจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐบาลได้มีการเปิดตัวโครงการรณรงค์ความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ที่จ.พิจิตร ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาทันที มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
ร.ต.ท.เศรษฐวุฒิ ประจวบสุข ร้อยเวร สภ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร กล่าวว่า ได้รับแจ้งมีเหตุรถยนต์กระบะประสบอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนหลายราย จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุที่บริเวณทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก ระหว่างกิโลเมตรที่ 70-71 บ้านเนินสว่าง หมู่ที่ 5 ตำบล พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้แบบแค๊ป สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียน บพ-7203จังหวัดระยอง ชนเข้ากับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณไหล่ทาง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า มีผู้เสียชีวิตติดภายในรถ 5 ราย ทราบชื่อ ภายหลังชื่อนายสมคิด หน่อท้าว อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ที่ 9 ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน, นางบังลอย หน่อท้าว อายุ 53 ปี ภรรยานายสมคิด, นายสุริยา ประเทือง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมูที่ 5 ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน
ส่วนอีก 2 รายเป็นเด็กชายอายุ 1 ขวบ 1 ราย และเด็กหญิงอายุ ประมาณ 4 ปี 1 ราย (ยังไม่ทราบชื่อ) เบื้องต้นทราบเพียงว่าเบื้องต้นเป็นบุตรของนางอรรถวรรณ วัตคำ 1 ใน 2 ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังไม่สามารถให้การได้ ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีกราย คือ นางบังอร ประเทือง ไม่ทราบอายุ อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ที่ 5 ตำบลเปือ อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวส่ง รพ.โพธิ์ประทับช้าง
จากการสอบสวนทราบในเบื้องต้นว่า รถยนต์คันเกิดเหตุมีนายสมคิด หน่อท้าว อายุ 57 ปีเป็นคนขับมาจากจังหวัดระยอง พร้อมกับครอบครัวและญาติๆ รวม 7 คน เพื่อที่จะเดินทางกลับไปฉลองสงการณ์ ที่จังหวัดน่าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุดังกล่าวสันนิษฐานว่าคนขับหลับใน ประกอบกับขับมาด้วยความเร็วสูง รถจึงเสียหลักแล้วพุ่งชนต้นไม้จนเป็นเหตุ ให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการเป็นประธานมอบนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและเปิดการรณรงค์ "7 วัน 77 จังหวัด สงกรานต์ปลอดภัย" วานนี้ (11 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า รัฐบาลกำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ และขอให้ผู้บริหารหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรภาคีที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นในการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้
ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินงานเป็นพิเศษ โดยให้เอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ ทุกตำบล อำเภอ จังหวัด ต้องรู้ “จุดเสี่ยง หรือ ปัจจัยเสี่ยง” และมีระบบข้อมูลในแต่ละระดับ รวมทั้งมีพัฒนาการการแก้ไขปัญหา ซึ่งหากพื้นที่มีพัฒนาการดี นอกจากช่วยรักษาชีวิต และทรัพย์สินแล้ว ก็ควรได้รับการยกย่องเชิดชูและตอบแทนจากรัฐบาลและสังคม
ขณะเดียวกัน จะขยายปีแห่งการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยไปในปี 2555-2556 ตั้งเป้าเพิ่มอัตราผู้สวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อน อย่างน้อยร้อยละ 20 ของทั้งประเทศและรายจังหวัด รวมทั้งสถานที่ราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา และสถานประกอบการ มีนโยบายตรวจตราการสวมหมวกนิรภัย 100% ในพื้นที่และบุคลากรของตนอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ ให้บังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด ห้ามขายให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี ห้ามดื่มบนถนนสาธารณะและยานพาหนะ และการเพิ่มบทลงโทษผู้ปฏิเสธการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ให้ถือว่า “เมา” ทุกราย รวมทั้งสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีตรวจจับความเร็วมาช่วยหรือมาแทนตำรวจให้มากขึ้น และขอให้ปรับลดอัตราความเร็วในการขับขี่ในพื้นที่ชุมชนเมือง และท้องถิ่นต้องมีมาตรการกำหนดความเร็วในเขตชุมชนสำคัญ เช่น บริเวณตลาด หน้าโรงเรียน เพิ่มขึ้น
วันเดียวกันนี้ ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) พร้อมด้วยนายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 ซึ่งดำเนินการระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. เพื่ออำนวยการสั่งการและประสานการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยในปีนี้ได้เปลี่ยนชื่อโครงการจาก "7วันอันตราย" เป็น "สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์" เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกและพฤติกรรมผู้ขับขี่ใช้รถใช้ถนน รวมถึงลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิต
นายยงยุทธกล่าวว่า เพื่อช่วยกันรณรงค์ ให้บรรลุตามเป้าหมายสงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์ โดยกระทรวงมหาดไทย จะแจกรางวัลให้กับจังหวัดที่ไม่มียอดผู้เสียชีวิต หรือมีตัวเลขอุบัติเหตุเป็นศูนย์ รวมกับก่อนหน้านี้ ทางมูลนิธิเมาไม่ขับ ที่ได้ร่วมกับมูลนิธิรัฐบุรุษ ประกาศให้รางวัลจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐบาลได้มีการเปิดตัวโครงการรณรงค์ความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ที่จ.พิจิตร ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาทันที มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
ร.ต.ท.เศรษฐวุฒิ ประจวบสุข ร้อยเวร สภ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร กล่าวว่า ได้รับแจ้งมีเหตุรถยนต์กระบะประสบอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนหลายราย จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุที่บริเวณทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก ระหว่างกิโลเมตรที่ 70-71 บ้านเนินสว่าง หมู่ที่ 5 ตำบล พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้แบบแค๊ป สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียน บพ-7203จังหวัดระยอง ชนเข้ากับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณไหล่ทาง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า มีผู้เสียชีวิตติดภายในรถ 5 ราย ทราบชื่อ ภายหลังชื่อนายสมคิด หน่อท้าว อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ที่ 9 ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน, นางบังลอย หน่อท้าว อายุ 53 ปี ภรรยานายสมคิด, นายสุริยา ประเทือง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมูที่ 5 ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน
ส่วนอีก 2 รายเป็นเด็กชายอายุ 1 ขวบ 1 ราย และเด็กหญิงอายุ ประมาณ 4 ปี 1 ราย (ยังไม่ทราบชื่อ) เบื้องต้นทราบเพียงว่าเบื้องต้นเป็นบุตรของนางอรรถวรรณ วัตคำ 1 ใน 2 ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังไม่สามารถให้การได้ ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีกราย คือ นางบังอร ประเทือง ไม่ทราบอายุ อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ที่ 5 ตำบลเปือ อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวส่ง รพ.โพธิ์ประทับช้าง
จากการสอบสวนทราบในเบื้องต้นว่า รถยนต์คันเกิดเหตุมีนายสมคิด หน่อท้าว อายุ 57 ปีเป็นคนขับมาจากจังหวัดระยอง พร้อมกับครอบครัวและญาติๆ รวม 7 คน เพื่อที่จะเดินทางกลับไปฉลองสงการณ์ ที่จังหวัดน่าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุดังกล่าวสันนิษฐานว่าคนขับหลับใน ประกอบกับขับมาด้วยความเร็วสูง รถจึงเสียหลักแล้วพุ่งชนต้นไม้จนเป็นเหตุ ให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
