นายกฯ เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ “7 วัน 77 จังหวัด สงกรานต์ปลอดภัย” สั่งเอกซเรย์ทุกพื้นที่ ลดจุดเสี่ยง และลดเสียชีวิต ด้านมหาดไทยเปิดศูนย์ ศปถ. เลิกแคมเปญ 7 วันอันตรายเป็นสงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์ ขณะที่ มท.1 กำชับภาคใต้ดูแลสถานการณ์เข้ม ระบุหาดใหญ่เริ่มฟื้นแล้ว
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (11 เม.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน และเปิดการรณรงค์ “7 วัน 77 จังหวัด สงกรานต์ปลอดภัย” โดยมีผู้บริหารส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวม 10 หน่วยงาน เช่น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง, นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข, นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที), พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ, นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมชั้นปลาย ปตท.จำกัด (มหาชน) และ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. เข้าร่วมรับมอบนโยบาย และรับมอบธงสัญลักษณ์รณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย และร่วมขบวนรณรงค์บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลด้วย
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลกำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ ภายใต้นโยบาย “7 วัน 77 จังหวัด สงกรานต์ปลอดภัย 2555” และขอให้ผู้บริหารหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรภาคีที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นในการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ตั้งเป้าลดอุบัติภัย และความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรให้เกิดขึ้นจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน” ที่ประเทศไทยประกาศไว้ว่า จะลดการตายบนท้องถนนลงครึ่งหนึ่งในทศวรรษนี้ (2554-2563) ถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทายทุกหน่วยงาน
ดังนั้น ขอให้เร่งรัดดำเนินงานเป็นพิเศษ ดังนี้ 1. “เอกซเรย์ทุกพื้นที่” โดยทุกตำบล อำเภอ จังหวัด ต้องรู้ “จุดเสี่ยง หรือ ปัจจัยเสี่ยง” และมีระบบข้อมูลในแต่ละระดับ รวมทั้งมีพัฒนาการการแก้ไขปัญหา ซึ่งหากพื้นที่มีพัฒนาการดี นอกจากช่วยรักษาชีวิต และทรัพย์สินแล้ว ก็ควรได้รับการยกย่องเชิดชูและตอบแทนจากรัฐบาลและสังคม ซึ่งดิฉันจะขดติดตามพัฒนาการรายพื้นที่ของปีนี้ต่อไป
2. ขยายปีแห่งการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยไปในปี 2555-2556 ตั้งเป้าเพิ่มอัตราผู้สวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อน อย่างน้อยร้อยละ 20 ของทั้งประเทศและรายจังหวัด รวมทั้งสถานที่ราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา และสถานประกอบการ มีนโยบายตรวจตราการสวมหมวกนิรภัย 100% ในพื้นที่และบุคลากรของตนอย่างจริงจัง
3. บังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด อาทิ ห้ามขายให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี, ห้ามดื่มบนถนนสาธารณะและยานพาหนะ และการเพิ่มบทลงโทษผู้ปฏิเสธการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ให้ถือว่า “เมา” ทุกราย และ 4. สนับสนุนให้นำเทคโนโลยีตรวจจับความเร็วมาช่วยหรือมาแทนตำรวจให้มากขึ้นด้วย และขอให้ปรับลดอัตราความเร็วในการขับขี่ในพื้นที่ชุมชนเมือง และท้องถิ่นต้องมีมาตรการกำหนดความเร็วในเขตชุมชนสำคัญ เช่น บริเวณตลาด หน้าโรงเรียน เพิ่มขึ้น
“นโยบายทั้ง 4 ประการ ขอให้ทุกหน่วยงานถือเป็น “จุดเน้น” และ “จุดเสริม” ของแนวทางการดำเนินการต่างๆ เสมือนการเสริม “ยาแรง” เพื่อช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายท้าทายของทศวรรษที่ตั้งไว้ร่วมกัน โดยมาเริ่มต้นที่วันสงกรานต์ปีนี้ ในปฏิบัติการ “7 วัน 77 จังหวัด สงกรานต์ปลอดภัย” เพื่อนำไปสู่ “365 วันปลอดภัยของประเทศไทยทุกพื้นที่” และสู่เป้าหมายทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนนต่อไป” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า นอกจากนั้นรัฐบาลได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กิจกรรมรณรงค์ปั้มปลอดภัยทั่วประเทศ ใน 4 ปั้มใหญ่ 4 มุมเมือง กทม.ในวันที่ 12 เม.ย. เพื่อให้เป็นจุดบริการ ที่พักผ่อนระหว่างการเดินทางของประชาชน กิจกรรม ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง ที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 13 เม.ย. เพื่อเป็นกิจกรรมต้นแบบของการเล่นสงกรานต์แบบอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย และกิจกรรมสงกรานต์ ถ.ข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น วันที่ 14 เม.ย. ซึ่งเป็นต้นแบบการเล่นสงกรานต์ที่สามารถสร้างสถิติโลก จากคลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ไว้เมื่อปี 2554 จากนั้นนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ขับรถยนต์เปิดประทุนนำขบวนรณรงค์ โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีสำนักนายกฯ ร่วมขบวนรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย 2555 บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงการขับขี่รถยนต์อย่างปลอดภัย โดยการคาดเข็มขัดนิรภัยเมื่อขับขี่รถยนต์ และสวมหมวกนิรภัย เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์
ก่อนหน้านั้น ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน เพื่ออำนวยการการการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่ พร้อมตั้งเป้า “สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์”
นายยงยุทธกล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าสงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์ ไม่ได้หมายถึงทั้งประเทศ แต่ตั้งเป้าในแต่ละจังหวัด ซึ่งก็ได้ผลแล้ว อย่างครั้งที่ผ่านมามีประมาณ 10 จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่นับทั้งประเทศอาจเป็นไปไม่ได้ จึงต้องรณรงค์เป็นรายจังหวัดไป จึงอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่าจะมีการวางแผนดำเนินการอย่างไร ที่ไม่ให้มีผู้เสียชีวิต หากจังหวัดใดไม่มีคนเสียชีวิต มูลนิธิเมาไม่ขับจะมีเงินรางวัลให้ และกระทรวงมหาดไทยจะมอบเป็นประกาศเกียรติคุณในจังหวัดนั้น และต่อไปนี้จะไม่ใช้ชื่อ “7 วันอันตราย” แต่จะใช้ “สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์” เพื่อให้ภาพที่ออกไปดูสร้างสรรค์ ไม่ใช่เชิงลบ
รมว.มหาดไทยกล่าวอีกว่า นโยบายดังกล่าว ขอแค่ทำ 3 อย่าง คือ 1. ไม่ดื่มสุราขณะขับรถ 2. ไม่ประมาทด้วยการขับรถเร็ว และ 3. สวมหมวกหรือคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อความปลอดภัยของคนขับ ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องตระหนักเรื่องนี้ก็จะตายเป็นศูนย์ เชื่อว่าต้องมีจังหวัดที่คนตายเป็นศูนย์เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว สำหรับในช่วงสงกรานต์นี้ จุดสำคัญๆ เช่น อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สถานการณ์เริ่มฟื้นแล้วมีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียเข้ามาบ้างแล้ว จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกฝ่ายต้องใส่ใจเป็นพิเศษ