เดอะมอลล์ดึง 2 ยักษ์ใหญ่ “ซี.พี.-ทีซีซี” เข้าร่วมเป็นพันธมิตรเสริมทัพเดิมรุกตลาดออนไลน์ หวังต่อยอดธุรกิจค้าปลีกในอนาคต พร้อมเปิดบริการชอปปิ้งออนไลน์ “M Globemall” แล้ว คาดหวังยอดขายออนไลน์ปีแรก 300 ล้านบาท มีผู้เข้าเยี่ยมชม 1 ล้านครั้ง และมีสมาชิก 1 แสนคน รับอีคอมเมิร์ซมาแรง
นางณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่การตลาด บริษัท เดอะมอลลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าเดอะมอลล์, ดิเอ็มโพเรียม และสยามพารากอน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการรุกตลาดออนไลน์ ภายใต้โครงการ “M Globemall” ว่า บริษัทฯ ได้เปิดบริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา โดยลูกค้าสามารถเข้าชมและชอปปิ้งได้ที่ www.mglobemall.com
ในช่วงแรกนี้มีประมาณ 40 ร้านค้าพันธมิตรที่ร่วมดำเนินการกันได้แล้ว จากจำนวนพันธมิตรทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 1,000 รายที่ตอบตกลงกันเรียบร้อยแล้ว และจะทยอยอัปเดต โดยคาดว่าในแต่ละเดือนจะต้องมีการอัปเดตร้านค้าใหม่ๆ เพิ่ม 200 ร้านค้า ช่วงแรกจะเน้น 4 กลุ่มบริการคือ กลุ่มธุรกิจอาหาร, กลุ่มธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว, กลุ่มธุรกิจความงามและสุขภาพ และกลุ่มธุรกิจบันเทิง ที่จะมีรายละเอียดและกิจกรรมรวมทั้งสิทธิพิเศษต่างๆ แล้วแต่กรณี
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรกับอีก 2 รายใหญ่ คือ เครือ ซี.พี. (ของนายธนินท์ เจียรวนนท์) และกลุ่มทีซีซีที่เป็นของเครือเบียร์ช้างหรือไทยเบฟ (ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี) ที่จะมีความร่วมมือกันขณะนี้และต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก ซึ่งตอนนี้ก็มีสินค้าและบริการของทั้งสองเครือเข้ามาอยู่ในออนไลน์นี้เช่นกัน
จากเดิมที่กลุ่มที่ร่วมก่อตั้ง “M Globemall” นั้นก็เป็นธุรกิจรายใหญ่ ประกอบด้วย เดอะมอลล์ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารธนชาต บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาธุรกิจรีเทลออนไลน์ภายใต้แนวคิด “Social Shopping Lifestyle” โดยมีเดอะมอลล์เป็นแกนหลัก ใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท
ล่าสุดเตรียมจะเปิดตัวให้บริการแอปลิเคชันเอ็มโกลมอลล์บนอุปกรณ์สื่อสารดิจิตอลไอโฟน,ไอแพด เพื่อรองรับการทำตลาดรูปแบบใหม่ โซโลโม มาร์เกตติ้ง (SoLoMo Marketting /Social Local Mobile Marketting) หรือเชื่อมต่อการทำตลาดผ่านสังคมออนไลน์บนอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ในไตรมาส 3 นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ
สำหรับการรุกตลาดออนไลน์ในปีแรกนี้ เดอะมอลล์ตั้งเป้าหมายมีฐานสมาชิกไม่ต่ำกว่า 100,000 คน มีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ไม่ต่ำกว่า 1,000,000 ครั้ง และมียอดขายไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งยังน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดขายรวมเดอะมอลล์ในช่องทางห้างสรรพสินค้าเดิม แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี และจะเป็นเครื่องมือในการทำตลาดที่สำคัญในอนาคต อีกทั้งยังเป็นอีกเครื่องมือการตลาดหนึ่งในการเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติในอนาคตเพื่อรองรับการทำตลาดต่างประเทศของดิเอ็มโพเรียม และสยามพารากอนได้ด้วย
นางณัฐศมนกล่าวด้วยว่า การทำตลาดแบบออนไลน์นี้คาดว่าจะมีการเติบโตมากขึ้นในอนาคต เป็นไปตามเทรนด์ของโลกออนไลน์ ทั้งนี้ จากข้อมูลตัวเลขจำนวนประชากรและผู้ใช้สื่อออนไลน์ต่างๆ พบว่าจำนวนประชากรทั่วโลกที่มีประมาณ 7,000 กว่าล้านคน พบว่าในปีที่แล้วมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 1,971 ล้านคน หรือ 29% และเพิ่มเป็น 2,110 ล้านคน หรือ 30% ในปี 2554 และคาดว่าในปี 2558 จะเพิ่มเป็น 2,700 ล้านคน หรือสัดส่วน 40% จากจำนวนประชากรทั่วโลก
ขณะที่ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 67-70 ล้านคน พบว่าในปี 2553 มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 22 ล้านคน หรือสัดส่วน 32% และเพิ่มเป็น 24.5 ล้านคน หรือสัดส่วน 37% เมื่อปี 2554 และคาดว่าในปี 2558 จะเพิ่มเป็น 36 ล้านคน หรือ 54%
ส่วนในปี 2555 คาดว่าประเทศไทยมีประชากรเน็ตประมาณ 24.5 ล้านคน มีประชากรที่ใช้โมบายล์ประมาณ 18 ล้านคน และมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก 13 ล้านคน ซึ่งถือเป็นอันดับที่ 16 ของโลก ส่วนมูลค่ายอดขายธุรกิจที่ผ่านระบบออนไลน์หรือบีทูซีในปี 2554 ของไทยมีมูลค่า 67,000 ล้านบาท และคาดว่าปี 2555 นี้จะเพิ่มเป็น 150,000 ล้านบาท