เทรนด์สื่อดิจิตอลมีเดียมาแรง เหตุสมาร์ทโฟนเฟื่องส่งแอปพลิเคชันโต ล่าสุด “เดนท์สุฯ” เอเยนซีสัญชาติญี่ปุ่น จับ “ไอบัตเตอร์ฟลาย” ต่อยอดสร้างแอปพลิเคชันเป็นเครื่องมือทางการตลาด หลังติดลมบนที่ญี่ปุ่นและฮ่องกง คาดสิ้นปีมียอดดาวน์โหลดร่วมแสนราย พร้อมส่งรายได้กลุ่มธุรกิจจากนิวมีเดียเป็น 10% ใน 3 ปี ส่วนตลาดรวมปีนี้มั่นใจดิจิตอลมีเดียโตร่วม 50% คิดเป็น 4-5% ของตลาดรวมโฆษณาแสนล้าน
นายมิตสึยูกิ นากามูระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ให้บริการมีเดียเอเยนซีจากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดโฆษณามูลค่า 1 แสนล้านบาทในปีนี้มองว่าน่าจะเติบโตได้ประมาณ 7-8% โดยในกลุ่มดิจิตอลมีเดียนั้นมองว่าน่าจะโตได้ 2 หลัก หรือมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 5-6% เมื่อเทียบกับภาพรวมของตลาดโฆษณา
ล่าสุดทางบริษัทได้จัดตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ขึ้นมา คือ เดนท์สุ 360 เข้ามาดูแลในส่วนของอินเกจดิจิตอล รองรับอินโนเวชันของมีเดียคอนเทนต์ในรูปแบบใหม่ๆ โดยได้เริ่มเปิดตัวมาตั้งแต่ต้นปี ล่าสุดนำเสนอแอปพลิเคชันไอบัตเตอร์ฟลาย (iButterfly) มาเป็นเครื่องมือในการทำการตลาด ถือเป็นผลงานแรกที่จะนำเสนอในประเทศไทย และหลังจากนี้จะมีเครื่องมือใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจากการเปิดหน่วยธุรกิจใหม่ครั้งนี้จะส่งผลให้ใน 3 ปีข้างหน้าบริษัทมีรายได้จากกลุ่มดิจิตอลมีเดียเพิ่มเป็น 10% เทียบกับรายได้รวมทั้งหมด จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 3-5% เท่านั้น ส่วนรายได้รวมในปีนี้มองว่าจะเติบโตได้ประมาณ 10% จาก 3,000 ล้านบาทที่ทำได้ในปีที่ผ่านมา
ด้านนายเพชร แพรวพรายกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ดูแลในส่วนของเดนท์สุ 360 กล่าวต่อว่า ไอบัตเตอร์ฟลายถือเป็นแอปพลิเคชันเพื่อเป็นเครื่องมือทางการตลาดอย่างแท้จริง จากเดิมเป็นแอปพลิเคชันเพื่อความบันเทิง ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยทางเดนท์สุ ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น และฮ่องกง พร้อมได้เริ่มทยอยเปิดให้บริการในประเทศแถบเอเชียไปบ้างแล้ว ทั้งฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และล่าสุดคือประเทศไทย รวมแล้วมีให้บริการแล้วกว่า 8 ประเทศในเอเชีย
โดยไอบัตเตอร์ฟลายจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการตลาด ช่วยลูกค้าสร้างแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ให้แก่ลูกค้าได้อย่างน่าสนใจ โดยขณะนี้มีลูกค้าที่ให้ความสนใจเลือกใช้บริการดังกล่าวนี้ไปบ้างแล้ว คือ สก๊อต เพียวเร่, ฮอนด้า, ทรู คอฟฟี่, เดอะไพร์ม ของทางเอเชียบุ๊คส์, SK II , วีจีไอ และกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา โดยมองเป็นการพัฒนาธุรกิจสู่ E-promotion ใช้งานง่าย พร้อมนำเสนอสิทธิประโยชน์ ส่วนลด ของแถม และของรางวัลต่างๆที่ผู้บริโภคเข้ามาร่วมเล่น ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะมีลูกค้าที่สนใจเลือกใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวอีกหลายราย และจะเป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทยไม่ต่างจากที่ฮ่องกง หรือภายในสิ้นปีนี้มั่นใจว่าจะมียอดดาวน์โหลดเล่นแอปพลิเคชันนี้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย เนื่องจากสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งสมาร์ทโฟนที่เป็นระบบ ISO และแอนดรอยด์
ด้านดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในฐานะที่เป็นผู้นำในตลาดรีเทล บริษัทพร้อมที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ มามอบแก่ผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา ผ่านเครื่องมือด้านการตลาดมาใช้แบบ 360 องศาครอบคลุมทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน โดยเราถือเป็นศูนย์การค้ารายแรกๆ ที่รุกการตลาดด้าน Digital Marketing อย่างจริงจัง ล่าสุดจับมือกับทางเดนท์สุในการนำแอปพลิเคชันไอบัตเตอร์ฟลาย มาใช้ทำการตลาดที่ศูนย์การค้าของซีพีเอ็น โดยจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในช่วง Annual Sale ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ ลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษ รางวัล และส่วนลดพิเศษจากร้านค้ามากมายจากภายในศูนย์ฯ มั่นใจว่าแอปพลิเคชันใหม่นี้จะช่วยขยายฐานลูกค้า และเป็นการต่อยอดกลยุทธ์การตลาดของซีพีเอ็นในรูปแบบ FUN FAST FREE