องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย แนะนำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรับมือการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน และการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ในปี 2558 ทำให้ภาษีนำเข้านมเป็น 0 โดยหันมาผลิตนมอินทรีย์ป้อนตลาดแทน เพราะนมอินทรีย์ยังเป็นที่ต้องการของตลาดผู้บริโภคกลุ่มคนรักสุขภาพและต้นทุนต่ำกว่า
นายนพดล ตันวิเชียร รองผู้อำนวยการ รักษาการ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า จากการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน และการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 รวมถึงการเปิดเขตการค้าเสรี กับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งจะมีผลให้การนำเข้านมผงของประเทศเหล่านี้มีภาษีเป็น 0 ดังนั้น ถือเป็นภารกิจที่ท้าทายของ อ.ส.ค.ที่ก้าวเข้าสู่ภาวการณ์แข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้น รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ก็จะได้รับผลกระทบตรงนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือสมาชิกเกษตรกร ทางอ.ส.ค. จึงได้เห็นถึงความจำเป็นที่จะให้เกษตกรผู้เลี้ยงโคนมปรับตัว โดยการปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยง ด้วยการหันมาผลิตนมอินทรีย์ โดยสมาชิกเกษตรกรของอ.ส.ค.หันมาผลิตนมอินทรีย์ตั้งแต่ปี 2550 ทำให้วันนี้ อ.ส.ค. สามารถผลิตน้ำนมดิบป้อน บริษัทบัตเตอร์ฟลาย จำกัด ผู้ผลิตนมอินทรีย์ ได้วันละ 200 กิโลกรัม หรือ ปีละ 70-80 ตัน ในขณะที่ความต้องการบริโภคภายในประเทศ มีสูงถึง 300-400 ตันต่อปี
ปัจจุบัน อ.ส.ค. มีสมาชิกที่ทำฟาร์มโคนมทั้งหมด 5 ฟาร์ม มีโคนมอินทรีย์ฟาร์มละ 20 ตัว ตั้งเป้าหมายในปี 2556 เพิ่มอีก 10 ฟาร์ม และในปี 2558 เพิ่มเป็น 20 ฟาร์ม ผลิตนมอินทรีย์ป้อนตลาดได้วันละ 4-5 ตัน ซึ่งต้นทุนอาหารการเลี้ยงโคนมอินทรีย์ต่อน้ำนมดิบจะอยู่ที่ 10 บาทต่อน้ำนม 1 กิโลกรัม ในขณะที่โคนมปกติ ต้นทุนสูงอยู่ที่ 14-15บาทต่อน้ำนม 1 กิโลกรัม
นายนพดล ตันวิเชียร รองผู้อำนวยการ รักษาการ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า จากการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน และการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 รวมถึงการเปิดเขตการค้าเสรี กับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งจะมีผลให้การนำเข้านมผงของประเทศเหล่านี้มีภาษีเป็น 0 ดังนั้น ถือเป็นภารกิจที่ท้าทายของ อ.ส.ค.ที่ก้าวเข้าสู่ภาวการณ์แข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้น รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ก็จะได้รับผลกระทบตรงนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือสมาชิกเกษตรกร ทางอ.ส.ค. จึงได้เห็นถึงความจำเป็นที่จะให้เกษตกรผู้เลี้ยงโคนมปรับตัว โดยการปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยง ด้วยการหันมาผลิตนมอินทรีย์ โดยสมาชิกเกษตรกรของอ.ส.ค.หันมาผลิตนมอินทรีย์ตั้งแต่ปี 2550 ทำให้วันนี้ อ.ส.ค. สามารถผลิตน้ำนมดิบป้อน บริษัทบัตเตอร์ฟลาย จำกัด ผู้ผลิตนมอินทรีย์ ได้วันละ 200 กิโลกรัม หรือ ปีละ 70-80 ตัน ในขณะที่ความต้องการบริโภคภายในประเทศ มีสูงถึง 300-400 ตันต่อปี
ปัจจุบัน อ.ส.ค. มีสมาชิกที่ทำฟาร์มโคนมทั้งหมด 5 ฟาร์ม มีโคนมอินทรีย์ฟาร์มละ 20 ตัว ตั้งเป้าหมายในปี 2556 เพิ่มอีก 10 ฟาร์ม และในปี 2558 เพิ่มเป็น 20 ฟาร์ม ผลิตนมอินทรีย์ป้อนตลาดได้วันละ 4-5 ตัน ซึ่งต้นทุนอาหารการเลี้ยงโคนมอินทรีย์ต่อน้ำนมดิบจะอยู่ที่ 10 บาทต่อน้ำนม 1 กิโลกรัม ในขณะที่โคนมปกติ ต้นทุนสูงอยู่ที่ 14-15บาทต่อน้ำนม 1 กิโลกรัม
