NUSA ระบุ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ผนวกการทำงานหนักช่วยผลักดันอัตราการเติบโตบริษัทอย่างต่อเนื่อง แจงจบไตรมาสแรกมียอดขายสะสมแล้ว 1,500 ล้านบาท มั่นใจผลงานทั้งปีตามเป้า 6,000 ล้านบาท เผยแผนธุรกิจในปี 55 เปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 4 โครงการ แนวสูง 1 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 8,200 ล้านบาท
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อั่งเปา แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA กล่าวว่า ยอด Backlog ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหลังจบไตรมาสแรกของปีนี้ไต่ระดับขึ้นมาอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าสิ้นปี 2555 นี้ NUSA จะมียอดขายไต่ระดับไปถึง 6,000 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 200% จากปี 2554 ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ระดับ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ สาเหตุที่ NUSA มีปริมาณ Backlog เพิ่มขึ้นนั้นคาดว่าเป็นเพราะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อโครงการภายใต้การบริหารของ NUSA
“เริ่มตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้พนักงานของ NUSA ทุกคนทำงานอย่างหนักและลุยกันอย่างเต็มที่ เพราะเรามีเป้าหมายที่จะผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีผลประกอบการที่ดี ซึ่งหมายถึงความแข็งแกร่งและมั่นคงของ NUSA เอง และที่สำคัญจะทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เร็วขึ้นด้วย”
ทั้งนี้ กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้โครงการภายใต้การดูแลและบริหารของ NUSA ได้รับการตอบรับที่ดีเป็นเพราะว่ามีความเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนคู่แข่ง คือ มีการเลือกโลเกชันที่โดดเด่น และแต่ละโครงการของ NUSA มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เด่นชัดในเรื่องของการกำหนดคอนเซ็ปต์ เพื่อให้สนองตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัวที่สุด
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของ NUSA ในปีนี้เตรียมที่จะเปิดโครงการใหม่จำนวน 5 โครงการ โดยแบ่งเป็นแนวราบ 4 โครงการ แนวสูง 1 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 8,200 ล้านบาท และในปัจจุบัน NUSA มีโครงการที่ดูแลอยู่ทั้งหมด 9 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 8,100 ล้านบาท
เขากล่าวต่อในช่วงท้ายถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/2555 ว่า คาดว่าจะไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง โดยประเมินจากยอด Backlog ที่มีเข้ามาในไตรมาสแรก ประกอบการที่ผ่านมาบริษัทสามารถบริหารต้นทุนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งช่วยทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ลดลงไปด้วย อย่างไรก็ตาม ทุกคนจะได้ทราบตัวเลขผลประกอบการที่แน่ชัดพร้อมกันประมาณกลางเดือนพฤษภาคมนี้
อนึ่ง ผลประกอบการในปี 2554 ที่ผ่านมา NUSA สร้างผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 788.36 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56.36 ล้านบาท และที่สำคัญอัตราส่วนทางการเงินในด้านต่างๆ ก็ปรับตัวดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่า D/E Ratio ในปีนี้ซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.86 ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า และต้นทุนขายที่มีการบริหารต้นทุนขายดีกว่าปีที่ผ่านมา
