บลจ.แมนูไลฟ์ กำไรหุ้นไทย จ่ายปันผลผู้ถือหน่วย "แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ ปันผล" ถึงหน่วยละ 1.25 บาท ชี้แนวโน้มหุ้นไทยยังได้ปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศ
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับประมาณ 1,025 จุดจากสิ้นปี 2554 มาอยู่ที่ระดับประมาณ 1,170 จุด ส่งผลให้กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ ปันผล (MS-EQ DIV) มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ เราจึงพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 1.25 บาทต่อหน่วย เพื่อคืนกำไรส่วนหนึ่งให้แก่ผู้ลงทุน โดยเป็นการจ่ายครั้งที่ 8 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 ซึ่งกองทุนจ่ายเงินปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 6.20 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราปันผลตอบแทนถึง 62% โดยในปัจจุบันหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวมีมูลค่า 10.6853 บาทต่อหน่วย (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มีนาคม 2555) และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 15 มีนาคม 2555 พร้อมจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 22 มีนาคม 2555 นี้
ทั้งนี้ เรายังมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มที่ค่อนข้างดีในปี 2555 จากปัจจัยบวกหลายประการทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากการลงทุนของภาครัฐและการบริโภคภาคเอกชนภายในประเทศ รวมทั้งอัตราการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนซึ่งน่าจะอยู่ในระดับ 10-15% ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มทรงตัวหรืออาจปรับลงเล็กน้อย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้อานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นตามตลาดโลกซึ่งมีแรงหนุนจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นหลังปัญหายุโรปเริ่มคลี่คลาย และจากการที่ธนาคารกลางยุโรปอัดฉีดสภาพคล่องผ่านโครงการ Long Term Refinancing Operation หรือ LTRO รอบที่ 2 เพิ่มอีก 5.29 แสนล้านยูโรหรือประมาณ 21 ล้านล้านบาทเมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมาทำให้เกิดสภาพคล่องในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งมีโอกาสที่เงินส่วนหนึ่งจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะตลาดหุ้นในแถบภูมิภาคเอเซีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยได้อย่างต่อเนื่อง
"หากนักลงทุนที่กำลังพิจารณาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทย อาจมองกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ ปันผล (MS-EQ DIV) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลแบบสม่ำเสมอ โดยเราได้วางแนวทางในการจ่ายเงินปันผลใหม่ซึ่งจะพยายามจ่ายเงินปันผลเป็นรายไตรมาสเพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตลอดระยะเวลาที่ลงทุน โดยที่ไม่ต้องกังวลและเสียเวลาเรื่องการดูจังหวะเพื่อขายทำกำไรด้วยตนเอง” นายต่อกล่าว
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับประมาณ 1,025 จุดจากสิ้นปี 2554 มาอยู่ที่ระดับประมาณ 1,170 จุด ส่งผลให้กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ ปันผล (MS-EQ DIV) มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ เราจึงพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 1.25 บาทต่อหน่วย เพื่อคืนกำไรส่วนหนึ่งให้แก่ผู้ลงทุน โดยเป็นการจ่ายครั้งที่ 8 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 ซึ่งกองทุนจ่ายเงินปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 6.20 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราปันผลตอบแทนถึง 62% โดยในปัจจุบันหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวมีมูลค่า 10.6853 บาทต่อหน่วย (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มีนาคม 2555) และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 15 มีนาคม 2555 พร้อมจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 22 มีนาคม 2555 นี้
ทั้งนี้ เรายังมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มที่ค่อนข้างดีในปี 2555 จากปัจจัยบวกหลายประการทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากการลงทุนของภาครัฐและการบริโภคภาคเอกชนภายในประเทศ รวมทั้งอัตราการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนซึ่งน่าจะอยู่ในระดับ 10-15% ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มทรงตัวหรืออาจปรับลงเล็กน้อย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้อานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นตามตลาดโลกซึ่งมีแรงหนุนจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นหลังปัญหายุโรปเริ่มคลี่คลาย และจากการที่ธนาคารกลางยุโรปอัดฉีดสภาพคล่องผ่านโครงการ Long Term Refinancing Operation หรือ LTRO รอบที่ 2 เพิ่มอีก 5.29 แสนล้านยูโรหรือประมาณ 21 ล้านล้านบาทเมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมาทำให้เกิดสภาพคล่องในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งมีโอกาสที่เงินส่วนหนึ่งจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะตลาดหุ้นในแถบภูมิภาคเอเซีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยได้อย่างต่อเนื่อง
"หากนักลงทุนที่กำลังพิจารณาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทย อาจมองกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ ปันผล (MS-EQ DIV) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลแบบสม่ำเสมอ โดยเราได้วางแนวทางในการจ่ายเงินปันผลใหม่ซึ่งจะพยายามจ่ายเงินปันผลเป็นรายไตรมาสเพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตลอดระยะเวลาที่ลงทุน โดยที่ไม่ต้องกังวลและเสียเวลาเรื่องการดูจังหวะเพื่อขายทำกำไรด้วยตนเอง” นายต่อกล่าว
