อคส.เตรียมใช้งบอีก 300 ล้านบาทซื้อหอมแดงเพิ่ม 2 หมื่นตัน ส่วนของเก่าเตรียมระบายเพิ่ม คาดขาดทุนเละ
พ.ต.ต.ศราวุฒิ สกุลมีฤทธิ์ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.จะเปิดรับซื้อหอมแดงจากเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงในจังหวัดศรีสะเกษเพิ่มเติมอีก 2 หมื่นตัน ในราคารับซื้อกิโลกรัมละ 15 บาทตามที่เกษตรกรร้องขอ โดยจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อตรวจสอบหอมแดงเป็นของเกษตรกรจริงหรือไม่ ป้องกันปัญหาสต๊อกลมและการสวมสิทธิ และจะสามารถรับซื้อได้ในเร็วๆ นี้
ส่วนการจัดเก็บสต๊อกหอมแดงล็อตใหม่ที่รับซื้อนั้น ได้ให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้จัดการพื้นที่ในการจัดเก็บ และจะเร่งระบายออกโดยเร็วเพื่อป้องกันการเน่าเสีย
สำหรับหอมแดงที่รับซื้อมาก่อนหน้านี้ 2 หมื่นตันจากจังหวัดลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เป็นต้น อคส.กำลังเร่งระบาย โดยจะเปิดประมูลแก่ผู้ที่สนใจอีกประมาณ 5,000-6,000 ตัน ซึ่งมีเอกชนสนใจเข้ามาซื้อหอมแดงแล้วประมาณ 10 ราย แต่จะมีการประกาศรับสมัครเข้าร่วมประมูลอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 เมษายนนี้ โดยจะพยายามระบายให้เกิดการขาดทุนน้อยที่สุด และราคาที่ประมูลได้จะต้องไม่ต่ำกว่าราคาตลาด หรือหากขาดทุนจะต้องขาดทุนไม่เกิน 10% ของต้นทุนที่แทรกแซงมา
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า วงเงินที่รับซื้อหอมแดงรอบใหม่จากเกษตรกรจำนวน 2 หมื่นตัน คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท จากราคารับซื้อที่กิโลกรัมละ 15 บาท เมื่อรวมกับหอมแดงของเก่าที่รับซื้อก่อนหน้านี้ 2 หมื่นตัน ทำให้ อคส.จะใช้งบประมาณถึง 600 ล้านบาทในการแทรกแซงหอมแดง ซึ่งมีแนวโน้มที่ อคส.จะขาดทุนจากการเปิดระบายหอมแดง เพราะขณะนี้ราคาหอมแดงในตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 13 บาทเท่านั้น ต่ำกว่าต้นทุนที่แทรงแซงมากิโลกรัมละ 15 บาท โดยการประมูลที่ผ่านมามีการเสนอราคาซื้อหอมแดงเพียงกิโลกรัมละ 8-9 บาท ทำให้ อคส.ยกเลิกอนุมัติขายไปก่อนหน้านี้เพราะเกรงว่าราคาหอมแดงในตลาดจะยิ่งตกต่ำหนัก
สำหรับความคืบหน้าการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ 1 หมื่นตัน เบื้องต้นจะนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย โดยเป็นการประสานสั่งซื้อผ่านบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และซื้อได้ในราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 30 บาท กำหนดลงเรือจากมาเลเซียในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ และเดินทางถึงไทยในวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มจะเป็นผู้จัดสรรน้ำมันปาล์มดิบให้ผู้ผลิตในสมาคมฯ ตามส่วนแบ่งการตลาด
พ.ต.ต.ศราวุฒิ สกุลมีฤทธิ์ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.จะเปิดรับซื้อหอมแดงจากเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงในจังหวัดศรีสะเกษเพิ่มเติมอีก 2 หมื่นตัน ในราคารับซื้อกิโลกรัมละ 15 บาทตามที่เกษตรกรร้องขอ โดยจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อตรวจสอบหอมแดงเป็นของเกษตรกรจริงหรือไม่ ป้องกันปัญหาสต๊อกลมและการสวมสิทธิ และจะสามารถรับซื้อได้ในเร็วๆ นี้
ส่วนการจัดเก็บสต๊อกหอมแดงล็อตใหม่ที่รับซื้อนั้น ได้ให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้จัดการพื้นที่ในการจัดเก็บ และจะเร่งระบายออกโดยเร็วเพื่อป้องกันการเน่าเสีย
สำหรับหอมแดงที่รับซื้อมาก่อนหน้านี้ 2 หมื่นตันจากจังหวัดลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เป็นต้น อคส.กำลังเร่งระบาย โดยจะเปิดประมูลแก่ผู้ที่สนใจอีกประมาณ 5,000-6,000 ตัน ซึ่งมีเอกชนสนใจเข้ามาซื้อหอมแดงแล้วประมาณ 10 ราย แต่จะมีการประกาศรับสมัครเข้าร่วมประมูลอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 เมษายนนี้ โดยจะพยายามระบายให้เกิดการขาดทุนน้อยที่สุด และราคาที่ประมูลได้จะต้องไม่ต่ำกว่าราคาตลาด หรือหากขาดทุนจะต้องขาดทุนไม่เกิน 10% ของต้นทุนที่แทรกแซงมา
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า วงเงินที่รับซื้อหอมแดงรอบใหม่จากเกษตรกรจำนวน 2 หมื่นตัน คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท จากราคารับซื้อที่กิโลกรัมละ 15 บาท เมื่อรวมกับหอมแดงของเก่าที่รับซื้อก่อนหน้านี้ 2 หมื่นตัน ทำให้ อคส.จะใช้งบประมาณถึง 600 ล้านบาทในการแทรกแซงหอมแดง ซึ่งมีแนวโน้มที่ อคส.จะขาดทุนจากการเปิดระบายหอมแดง เพราะขณะนี้ราคาหอมแดงในตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 13 บาทเท่านั้น ต่ำกว่าต้นทุนที่แทรงแซงมากิโลกรัมละ 15 บาท โดยการประมูลที่ผ่านมามีการเสนอราคาซื้อหอมแดงเพียงกิโลกรัมละ 8-9 บาท ทำให้ อคส.ยกเลิกอนุมัติขายไปก่อนหน้านี้เพราะเกรงว่าราคาหอมแดงในตลาดจะยิ่งตกต่ำหนัก
สำหรับความคืบหน้าการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ 1 หมื่นตัน เบื้องต้นจะนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย โดยเป็นการประสานสั่งซื้อผ่านบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และซื้อได้ในราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 30 บาท กำหนดลงเรือจากมาเลเซียในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ และเดินทางถึงไทยในวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มจะเป็นผู้จัดสรรน้ำมันปาล์มดิบให้ผู้ผลิตในสมาคมฯ ตามส่วนแบ่งการตลาด
