ทอท.ปรับแผนซ่อมรันเวย์สุวรรณภูมิ หวั่นกระทบประชุม World Economic Forum ปลายพฤษภาคมนี้ “สุเมธ” เผยอาจต้องหยุดซ่อม 5-7 วันเพื่อไม่ให้กระทบภาพลักษณ์ เตรียมเจรจาผู้รับเหมา พร้อมเตรียมดอนเมืองสำรองกรณีฉุกเฉินเหตุรันเวย์จะรองรับได้ลดลงเหลือ 43 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด ทอท.วันนี้ (19 เม.ย.) คณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาท่าอากาศยาน ซึ่งมี นายธานินทร์ อังสุวรังษี เป็นประธาน จะรายงานความคืบหน้าแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมถึงแผนการปรับปรุงทางวิ่ง (Runway) ฝั่งตะวันออกด้านทิศเหนือของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งจะดำเนินการระหว่างวันที่ 23 เมษายน-21 มิถุนายน 2555 (รวม 60 วัน) ซึ่งเบื้องต้นจะมีการปรับแผนโดยหยุดดำเนินการในช่วงที่มีการประชุม World Economic Forum on East Asia หรือ WEF ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมที่ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2555 เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
“ตอนนี้จุดที่ผิวรันเวย์ชำรุดก็ไม่สามารถใช้งานได้อยู่แล้ว ซึ่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ได้ประชุมเมื่อวันที่ 18 เมษายนแล้วเห็นว่า ในช่วงประชุม WEF อาจต้องหยุดการปรับปรุงรันเวย์ประมาณ 5-7 วันเพื่อให้ภาพสนามบินมีความเรียบร้อย ซึ่งจะต้องขอร้องผู้รับเหมาและต้องขยายเวลาในสัญญาออกไปตามจำนวนวันที่ต้องหยุดดำเนินการ ซึ่งไม่น่ามีปัญหา นอกจากนี้ หากในช่วงดังกล่าวมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นจนเกิดความแออัดจะใช้สนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินสำรอง”พล.อ.อ.สุเมธกล่าว
สำหรับการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกด้านทิศเหนือของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะทาง 1,620 เมตร ใช้เวลา 60 วัน (23 เม.ย.-21 มิ.ย. 55) วงเงินประมาณ 150 ล้านบาท เป็นการปรับพื้นผิวแบบถาวรโดยไม่ได้ปิดรันเวย์ทั้งหมด ดังนั้น เครื่องบินลำตัวแคบไม่เกิน 200 ที่นั่ง เช่น แอร์บัส A320 และโบอิ้ง B737 ยังสามารถขึ้นลงได้เพราะใช้ระยะวิ่งไม่เกิน 2,000 เมตร โดยจะทำให้รันเวย์ที่สุวรรณภูมิสามารถจะรองรับได้สูงสุด 43 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับช่วง Low Season พอดี จากเฉลี่ยที่รองรับได้ถึง 55 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
โดยรายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้มีหลายแนวทางที่จะนำมาใช้เร่งการปรับปรุงผิวรันเวย์ เช่น การย้ายเที่ยวบินบางส่วนมาใช้ดอนเมืองซึ่งพบว่าเป็นไปได้ยากเพราะขึ้นกับความสมัครใจของแต่ละสายการบิน, เร่งผู้รับเหมาให้ทำงานเร็วขึ้นเพื่อให้เสร็จก่อนการประชุม WEF ซึ่งพบว่าจะต้องมีการเพิ่มเครื่องมือเครื่องจักรและคนงาน และส่งผลให้ต้องเจรจาเพื่อปรับเพิ่มค่าก่อสร้างตามไปด้วย ซึ่งจะมีปัญหาเพราะอาจต่อระเบียบของ ทอท.เนื่องจากการประมูลได้ข้อสรุปไปแล้ว รวมถึงมีปัญหาหากต้องมีการปรับเพิ่มวงเงิน ซึ่งถือเป็นการลงทุน