นายธีระศิลป์ เทเพนทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มฐานข้อมูลการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.อยู่ระหว่างการพัฒนาโมบายล์เว็บไซต์เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวที่ทยอยปรับเปลี่ยนภายใน 5 ปีนับจากนี้ โดยหันมาสืบค้นข้อมูลด้านการท่องเที่ยวโดยใช้บริการผ่านสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น
“ต่อไปนี้การหาข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจะลดน้อยลงเรื่อยๆ แม้การเข้าดูข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันก็มีแนวโน้มที่ลดลง แต่จะใช้บริการเข้าเว็บไซต์ผ่านมือถือได้เลย เพราะเป็นช่องทางที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ประกอบกับเทคโนโลยี 3G และ 4G จะช่วยให้การเข้าเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือทำได้รวดเร็วขึ้น ขณะที่การใช้แอปพลิเคชันจะต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องการดาวน์โหลด และเป็นข้อมูลเฉพาะอย่างหนึ่งอย่างใดเท่านั้น”
ปัจจุบันพฤติกรรมคนเมืองและคนรุ่นใหม่ทั่วโลกนิยมทำธุรกรรมซื้อขายผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ในส่วนของประเทศไทย แนวโน้มการใช้มือถือจะเพื่อความบันเทิงเป็นส่วนใหญ่ โดยพบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กในไทย 13 ล้านคน กว่า 80% เข้ามาเพื่อเล่นเกม และเมื่อเกิดความคุ้นเคยก็จะเข้าสู่การใช้งานที่จริงจังมากขึ้น สำหรับประเทศไทย เชื่อว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเป็นผู้นำในตลาดนี้เนื่องจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. นักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ 2. นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่เป็นคนที่ชื่นชอบและตามทันเรื่องเทคโนโลยี โดยจะเห็นได้จากบริการด้านท่องเที่ยวอย่างสายการบิน ออนไลน์ ทราเวล เอเยนต์ (โอทีเอ) ซึ่งเริ่มเปิดตัวแพลตฟอร์มการซื้อขายผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่มาก่อนแล้ว
นอกจากนั้นยังได้จัดทำเว็บไซต์ฐานข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงการตลาดwww.tourismthailand.org/marketingdatabase) ซึ่งมีเทคโนโลยีสำหรับคนสายตาพิการ เพราะเป็นนักท่องเที่ยวอีกเซกเมนต์หนึ่งที่กำลังมาแรงเติบโตสูงในยุโรป โดยเว็บไซต์ลักษณะนี้ในประเทศไทยยังมีน้อย ต่างจากยุโรปที่ได้พัฒนาระบบสาธารณูปโภคให้เอื้อสำหรับการเดินทางของคนพิการที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพราะพฤติกรรมคนกลุ่มนี้ในยุโรปจะไม่จำกัดอยู่เพียงแต่ในบ้าน แต่นิยมเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งการใช้จ่ายของคนพิการต่อทริปไม่แตกต่างจากคนปกติ และยินดีที่จะจ่ายเพิ่มในส่วนของบริการช่วยเหลือต่างๆ
กลุ่มคนพิการมีค่าใช้จ่ายต่อทริปไม่ต่างจากคนปกติ แต่สิ่งที่จะเพิ่มเติมขึ้นมาคือ การใช้บริการช่วยเหลือต่างๆ เช่น ผู้ดูแลเป็นพิเศษ การเดินทางแบบพิเศษ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานคนไทยเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้ความไม่พร้อมดังกล่าวจะทำให้ไทยสูญเสียโอกาสนี้ไปให้คู่แข่งที่มีความพร้อมรับมากกว่า อย่างญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ซึ่งเริ่มมีการพัฒนาสาธารณูปโภคเพื่อคนพิการอย่างชัดเจน
“ต่อไปนี้การหาข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจะลดน้อยลงเรื่อยๆ แม้การเข้าดูข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันก็มีแนวโน้มที่ลดลง แต่จะใช้บริการเข้าเว็บไซต์ผ่านมือถือได้เลย เพราะเป็นช่องทางที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ประกอบกับเทคโนโลยี 3G และ 4G จะช่วยให้การเข้าเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือทำได้รวดเร็วขึ้น ขณะที่การใช้แอปพลิเคชันจะต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องการดาวน์โหลด และเป็นข้อมูลเฉพาะอย่างหนึ่งอย่างใดเท่านั้น”
ปัจจุบันพฤติกรรมคนเมืองและคนรุ่นใหม่ทั่วโลกนิยมทำธุรกรรมซื้อขายผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ในส่วนของประเทศไทย แนวโน้มการใช้มือถือจะเพื่อความบันเทิงเป็นส่วนใหญ่ โดยพบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กในไทย 13 ล้านคน กว่า 80% เข้ามาเพื่อเล่นเกม และเมื่อเกิดความคุ้นเคยก็จะเข้าสู่การใช้งานที่จริงจังมากขึ้น สำหรับประเทศไทย เชื่อว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเป็นผู้นำในตลาดนี้เนื่องจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. นักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ 2. นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่เป็นคนที่ชื่นชอบและตามทันเรื่องเทคโนโลยี โดยจะเห็นได้จากบริการด้านท่องเที่ยวอย่างสายการบิน ออนไลน์ ทราเวล เอเยนต์ (โอทีเอ) ซึ่งเริ่มเปิดตัวแพลตฟอร์มการซื้อขายผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่มาก่อนแล้ว
นอกจากนั้นยังได้จัดทำเว็บไซต์ฐานข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงการตลาดwww.tourismthailand.org/marketingdatabase) ซึ่งมีเทคโนโลยีสำหรับคนสายตาพิการ เพราะเป็นนักท่องเที่ยวอีกเซกเมนต์หนึ่งที่กำลังมาแรงเติบโตสูงในยุโรป โดยเว็บไซต์ลักษณะนี้ในประเทศไทยยังมีน้อย ต่างจากยุโรปที่ได้พัฒนาระบบสาธารณูปโภคให้เอื้อสำหรับการเดินทางของคนพิการที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพราะพฤติกรรมคนกลุ่มนี้ในยุโรปจะไม่จำกัดอยู่เพียงแต่ในบ้าน แต่นิยมเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งการใช้จ่ายของคนพิการต่อทริปไม่แตกต่างจากคนปกติ และยินดีที่จะจ่ายเพิ่มในส่วนของบริการช่วยเหลือต่างๆ
กลุ่มคนพิการมีค่าใช้จ่ายต่อทริปไม่ต่างจากคนปกติ แต่สิ่งที่จะเพิ่มเติมขึ้นมาคือ การใช้บริการช่วยเหลือต่างๆ เช่น ผู้ดูแลเป็นพิเศษ การเดินทางแบบพิเศษ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานคนไทยเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้ความไม่พร้อมดังกล่าวจะทำให้ไทยสูญเสียโอกาสนี้ไปให้คู่แข่งที่มีความพร้อมรับมากกว่า อย่างญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ซึ่งเริ่มมีการพัฒนาสาธารณูปโภคเพื่อคนพิการอย่างชัดเจน
