xs
xsm
sm
md
lg

“อิมพีเรียล” อัปเกรดจับกลุ่มบน ปรับพื้นที่-ดึงอินเตอร์แบรนด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“อิมพีเรียลเวิลด์สำโรง” รุกหนักรับศึกค้าปลีกดุ อัปเกรดศูนย์ขยับฐานสู่กลุ่มบน ปรับแผนทั้งอีเวนต์ พีอาร์ และพื้นที่ร้านค้า ดึงร้านอาหารอินเตอร์เชน-แบรนด์เนม เพิ่มขึ้น

นายพงษ์ศักดิ์ รุ่งโรจน์การค้า ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง เปิดเผยว่า ธุรกิจค้าปลีกนับวันแข่งขันรุนแรงมากขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้งจากศูนย์ของคนไทยและต่างชาติ โดยในสมุทรปราการ หรือบริเวณใกล้เคียงมีศูนย์ค้าปลีกเกิดขึ้นมากมาย และแต่ละศูนย์ฯ ก็มีแผนการตลาดดึงลูกค้าของตัวเอง คาดว่าภาพรวมค้าปลีกปีนี้จะเติบโต 8%

สำหรับแผนการรุกตลาดของศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง มีแผนจะขยายกลุ่มเป้าหมายของศูนย์ฯ ไปยังกลุ่มระดับบนเพิ่มขึ้น คือ กลุ่มเอ และบีบวก ซึ่งเป็นกลุ่มที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านโดยรอบศูนย์ฯ มากกว่า 100 โครงการ ครอบคลุมรัศมี 5 กิโลเมตรจากโครงการ ทั้งนี้ แผนรองรับดังกล่าวจะต้องทำทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การจัดอีเวนต์ และการปรับพื้นที่รวมทั้งร้านค้าใหม่ในศูนย์เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ฐานลูกค้าเดิม คือ กลุ่มซี และบีลบนั้นยังเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญที่ไม่ละทิ้ง เพราะเป็นฐานตลาดที่ใหญ่ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่คู่กับอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง มากว่า 30 ปีแล้ว และเป็นกลุ่มที่ผูกพันกับบริษัทมากด้วย โดยมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อครั้งอยู่ที่ 300-400 บาท ซึ่งกลุ่มนี้ก็มีการเติบโตที่ดีและต้องการไลฟ์สไตล์ที่แปลกใหม่และดีขึ้น
โดยจะใช้งบการตลาดประมาณ 6% จากยอดขายรวมทั้งปี และการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ จะแจกใบปลิวประชาสัมพันธ์ จำนวน 15,000 ใบไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรงด้วยการระบุกับทีมงานที่แจกใบปลิว จากเดิมที่ไม่ได้กำหนดแจกในวงกว้าง จำนวน 10,000 ใบต่อครั้ง

ขณะที่การปรับพื้นที่นั้นเริ่มทยอยทำมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ด้วยงบกว่า 30 ล้านบาท ปรับชั้นใต้ดิน เปิดเป็นโซนต่างๆ เช่น แฟชั่น และร้านอาหาร อินเตอร์เชนเข้ามาเปิดบริการเพื่อรองรับกลุ่มระดับบน เช่น ซานตาเฟ่ ยาโยอิ มิสเตอร์เหม็ง ฮะจิบัง บาร์บีคิวพลาซ่า และยังมีกระจายอยู่ชั้นอื่น เช่น ชาบูชิ สเวนเซ่นส์ ส่วนชั้นที่ 1 ได้จัดกลุ่มใหม่เป็นแฟชั่นสตรีท จิวเวลรี บิวตี้โซน และมี 4 พื้นที่จัดอีเวนต์ใหญ่

ส่วนชั้นที่ 3 มีแผนปรับในปีหน้าด้วยงบประมาณกว่า 30 ล้านบาทเช่นกัน ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ห้างยูแอนด์อิมของเราเอง จะรีโนเวตจัดหมวดหมู่ใหม่ดึงแบรนด์ชั้นนำเข้ามาจำหน่ายมากขึ้น รวมทั้งจะเพิ่มโซนเอดูเคชันเพื่อจับกลุ่มเด็กด้วย ส่วนชั้นที่ 2 เป็นร้านค้าเช่าซึ่งภายในศูนย์ฯ มีร้านค้าเช่ากระจายทั้งหมดรวมกันกว่า 1,000 ร้านค้า และชั้นที่ 4 เป็นโซนคลองถมพลาซา กับโซนพระเครื่อง ส่วนชั้นที่ 5 เป็นโรงหนังและไอซ์สเกต ทั้งหมดนี้ยังไม่หมดสัญญาเช่ากับรายเดิมจึงยังไม่ได้ปรับ

ส่วนชั้นที่ 6 เป็นสำนักงานกับคอนเวนชันฮอลล์ ซึ่งปีนี้จะเน้นลูกค้าจัดงานแต่งงานมากขึ้น จากเดิมที่เป็นกลุ่มประชุมสัมมนาเป็นหลัก และชั้นที่ 7 เป็นสวนน้ำเดิมซึ่งยังคงเปิดบริการอยู่ แต่ก็ไม่ได้คึกคักมากนัก มีแผนที่จะปรับอีก ซึ่งอาจจะเพิ่มโซนฟิตเนส แต่ทั้งนี้ยังเป็นแผนระยะยาว

ด้านแผนการจัดอีเวนต์นั้น จะจัดให้มีความหลากหลายมากขึ้น และตรงความต้องการของกลุ่มเอ และบีด้วย ซึ่งเดิมอาจจะเน้นจัดไปยังกลุ่มบี และซี เช่น คอนเสิรต์ลูกทุ่ง เป็นต้น ล่าสุดจัดกิจกรรม โชว์ชิม ริมทะเล วันที่ 8-21 มีนาคมนี้ เพื่อสร้างความแปลกใหม่กับการชอปปิ้งพาเหรดร้านอาหารทะเลดังและอร่อย คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดลูกค้าได้ 20%

“เราแบ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาพร้อมยกระดับของศูนย์ขึ้นไปพร้อมๆ กัน รวมไปถึงการจัดกิจกรรมที่ดึงชุมชนโดยรอบศูนย์เข้ามามีส่วนร่วม เช่น กิจกรรมการประกวด ความสามารถด้านต่างๆ เป็นต้น เช่น กิจกรรมการประกวดลูกทุ่งเยาวชน อิมพีเรียลที่จัดมาเกือบ 10 ปีแล้ว” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

บริษัทมั่นใจว่าหลังจากที่ปรับครบทั้งศูนย์ฯ สมบูรณ์แบบแล้วจะมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีผู้เข้าใช้บริการมากขึ้นประมาณ 20% จากปัจจุบันที่เริ่มปรับแล้วบางส่วน มีผู้เข้าใช้บริการประมาณ 60,000-80,000 คนต่อวัน ส่วนวันหยุดประมาณ 100,000-120,000 คนต่อวัน โดยมีที่จอดรถรองรับ 3,000 คัน ซึ่งที่ผ่านมาเริ่มมีลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาในศูนย์ฯ บ้างแล้ว 5% ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมเติบโต 30% จากปีที่แล้วที่เติบโต 10%
กำลังโหลดความคิดเห็น