“น้องซี” ดีขึ้น เตรียมออกไอซียูแล้ว

อาการ “น้องซี” นักร้องสาวทอมอาการดีขึ้น รู้สึกตัวดี พูดด้วยรู้เรื่อง ไม่สับสน หายใจเองได้ เตรียมให้ออกจากห้องไอซียูแล้ว เชื่ออีกไม่นานกลับบ้านได้ ส่วนคนขับรถนำกระเช้ามาเยี่ยม และกล่าวขอโทษกับครอบครัวน้องซี ซึ่งไม่ติดใจเอาความเพราะเชื่อเป็นอุบัติเหตุ

วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ รพ.ตำรวจ พ.ต.อ.สุพล จงพาณิชย์กุลธร โฆษก รพ.ตำรวจ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศิริกุล เจียรนัยขจร รองโฆษก รพ.ตำรวจ พ.ต.ต.ชนะ จงโชคดี นพ.สบ 2 กลุ่มงานศัลยกรรม แพทย์เจ้าของไข้ ร่วมกันแถลงถึงอาการบาดเจ็บของ น.ส.มัฑณาวี คีแนน หรือซี สาวหล่อลูกครึ่งอังกฤษ-อินโดนีเซีย นักร้องค่ายอาร์เอส ที่ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถกระบะพุ่งชนขณะเดินข้ามถนนพระราม 1 หน้า รพ.ตำรวจ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเข้าผ่าตัดสมอง พักรักษาตัวที่ห้อง ICU ร.พ.ตำรวจ เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนางซรี่ คีแนน อายุ 57 ปี แม่ น.ส.ลิซ่า คีแนน อายุ 31 ปี น.ส.แคทเธอรีน คีแนน อายุ 28 ปี ครอบครัวของซี และนายจงเบ ปาร์ค นักร้องค่ายคีโอติค ร่วมแถลงด้วย

พ.ต.อ.สุพลกล่าวว่า ทางแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะเอาเลือดที่คั่งออก และปิดกะโหลกศีรษะไว้เหมือนเดิม ซึ่งหลังผ่าตัด น.ส.มัฑณาวีแล้ว อาการโดยรวมดีขึ้น ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดด้วยรู้เรื่อง ไม่สับสน หายใจเอง ไม่เหนื่อยหอบ บริเวณศีรษะมีแผลผ่าตัด มีท่อระบายเลือดอยู่ 1 เส้น มีเลือดออกเล็กน้อยบริเวณหน้า หลังมือ นิ้วมือ สองข้างมีแผลถลอกเล็กน้อย กำลังของขาทั้งสองข้างปกติ ยกเว้นแขนขวามีกำลังน้อยกว่าแขนซ้ายเล็กน้อย เนื่องจากมีอาการหักของกระดูกไหปลาร้าข้างซ้าย นอกจากนี้ผู้ป่วยมีอาการปวดแผล คลื่นไส้เป็นบางครั้ง ซึ่งแพทย์ให้ยาแก้ปวดและแก้คลื่นไส้ เป็นระยะ ทั้งนี้ ต้องรอดูอาการอีก 1-2 สัปดาห์ หากอาการดีขึ้นก็พักฟื้นที่บ้านได้

ด้าน พ.ต.ต.ชนะ แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า หลังผ่าตัดเสร็จแล้วจะต้องรอดูอาการอีก 1-2 สัปดาห์ โดยจะทำการเอกซเรย์สมองอีกครั้งเพื่อตรวจหาดูอาการทางสมองว่ามีผลกระทบอะไรกับร่างกายส่วนอื่นหรือไม่ ส่วนกระดูกไหปลาร้าที่หักจะผ่าตัดอีกครั้งหลังจากอาการทางสมองดีขึ้นแล้ว หลังจากนั้นจะเฝ้าประเมินติดตามอาการอีก 1-2 เดือนว่าจะพร้อมไปร้องเพลงและเต้นได้หรือยัง ทั้งนี้ คาดว่าพรุ่งนี้ผู้ป่วยจะออกจากห้องไอซียูได้ และพักฟื้นที่ห้องพิเศษ เนื่องจากอาการโดยรวมดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ถือว่าโชคดีที่เกิดเหตุหน้าโรงพยาบาลพอดี ประกอบด้วยอายุยังน้อย ร่างกายแข็งแรงทำให้การฟื้นตัวของร่างกายดีขึ้น

นางซรี่ มารดาคนไข้กล่าวว่า สำหรับคนขับรถชน ภายหลังเกิดเหตุก็อยู่กับน้องซีตลอด จนถึงส่งน้องซีเข้าห้องผ่าตัดที่ห้องไอซียู รพ.ตำรวจ ก็ยังนั่งเฝ้าจนผ่าตัด เขาได้ขอโทษทางญาติแล้ว และบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ทางครอบครัวไม่ได้ติดใจเอาความเพราะรู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ ส่วนคดีความขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอบคุณแฟนคลับของน้องซีทุกคนที่ให้กำลังใจ ตอนนี้น้องซีมีกำลังใจดีมาก และหลังจากหายดีแล้วจะกลับไปร้องเพลงเหมือนเดิมแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าห้องไอซียูตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาว่ามีบรรดาแฟนคลับของน้องซีนำกระเช้าดอกไม้มาให้กำลังใจ และเซ็นชื่อในสมุดเข้าเยี่ยม เนื่องจากแพทย์ไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมด้านในนอกจากครอบครัว นอกจากนี้ยังมี เมย์ พิชย์นาถ และนายจงเบ ปาร์ค นักร้องวงเคโอติค ได้นำดอกไม้มามอบให้ครอบครัวน้องซีเพื่อให้กำลังใจด้วย

ส่วนช่วงบ่ายมีนายสมพร จูตระกูล อายุ 32 ปี คนขับรถกระบะขนส่งอาหารให้กับร้านบาร์บีคิวพลาซ่า ที่ขับรถชนน้องซี ได้นำกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมพร้อมเซ็นชื่อในสมุดเข้าเยี่ยมด้วยว่า “หายเร็วๆ นะซี ผมขอโทษ ผมเสียใจมาก”

วันเดียวกัน พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ปทุมวัน เปิดเผยความคืบหน้าในคดีว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำนายสมพรผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียวโดยให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อีกทั้งผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน และคงไม่ต้องเรียกใครมาสอบเพิ่มเติมเนื่องจากเป็นคดีรถชนธรรมดา ส่วนเรื่องแจ้งข้อหานั้นอยู่ระหว่างรอผลการตรวจจากทางแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี ซึ่งต้องดูจากผลแพทย์ระบุว่าผู้เสียหายมีอาการสาหัสหรือไม่ ทั้งนี้ถ้าอาการสาหัสเบื้องต้นก็จะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งคาดว่าจะต้องรอผลแพทย์อีกประมาณ 2-3 วัน จึงจะสามารถทราบข้อหาที่แน่ชัด จากการสอบสวนนายสมพรให้การว่าเป็นผู้ขับรถชนผู้เสียหายจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจชน เป็นอุบัติเหตุ เขารู้สึกเสียใจและตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน หลังจากรู้ว่าเกิดอุบัติเหตุยังคงตกตะลึง พอรวบรวมสติได้ก็ลงไปดูเพื่อสอบถามและกล่าวขอโทษผู้บาดเจ็บซึ่งขณะนั้นยังมีสติอยู่ แล้วตามไปดูที่โรงพยาบาลอีกด้วย

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามนายสมพร อาชีพพนักงานขับรถขนส่งอาหารให้ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุตนได้วิ่งไปดูผู้บาดเจ็บ ซึ่งตอนนั้นน้องเขายังมีสติอยู่และร้องว่าเจ็บๆ จากนั้นมีวินจักรยานยนต์รับจ้าง และรถแท็กซี่บริเวณจุดเกิดเหตุเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมกับวิทยุแจ้งให้รถโรงพยาบาลมาช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ ต่อมาเจ้าหน้าที่สายตรวจของ สน.ปทุมวัน อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุเข้ามาตรวจสอบ ตนก็บอกว่าเป็นผู้ขับรถชนเอง ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ยึดใบขับขี่ตนไป จากนั้นตนก็ตามไปดูอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลว่ามีอาการสาหัสมากน้อยแค่ไหน จากนั้นก็เข้าไปให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ปทุมวัน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะย้อนกลับมาเยี่ยมดูอาการน้องที่โรงพยาบาลอีกครั้ง และยังไม่ทราบว่าน้องเขาเป็นดาราด้วย กระทั่งเห็นแฟนคลับมาเยี่ยมน้องเป็นจำนวนมาก จึงเพิ่งรู้ว่าเป็นนักร้องดังยิ่งทำให้รู้สึกตกใจและกดดันมากขึ้น ในขณะนั้นน้องกำลังอยู่ในห้องผ่าตัดก็ได้แต่ภาวนาในใจว่าขอให้น้องปลอดภัยดี

นายสมพรกล่าวต่อว่า จนกระทั่งวันนี้ได้ทราบข่าวว่าน้องซีพ้นขีดอันตรายแล้ว รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก โดยช่วงเช้านี้ตนไปทำงานตามปกติ ได้แวะไหว้ศาลพระหรหมที่โรงงานย่านนวนครที่ทำงานอยู่นั้น เพื่อขอให้ช่วยน้องเขาหายและปลอดภัยดี และขอให้คดีสิ้นสุดด้วยดี ก่อนจะขับรถส่งของตามปกติ และในช่วงบ่ายมีรายการส่งของที่ห้างมาบุญครองที่สุดท้าย และตั้งใจว่าหลังจากส่งของเสร็จแล้วก็จะแวะไปเยี่ยมดูอาการน้องเขาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง อีกทั้งตนนั้นเข้าใจความรู้สึกของคอรบครัวผู้บาดเจ็บดี เพราะตนก็เป็นพ่อคนมีบุตรถึง 2 คน ถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้เข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อไหร่ก็พร้อมจะไปเข้าพบทันที และพร้อมยินดีรับทราบทุกข้อกล่าวหา