xs
xsm
sm
md
lg

“ปตท.-บางจาก” แจงความพร้อมรับค่าแรง 300 ปรับแผนลงทุนปั๊มแบบให้เติมเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ “ปตท.-บางจาก” ยันความพร้อมขึ้นค่าแรงงาน 300 บาท 1 เม.ย.ตามนโยบายรัฐบาล ยอมรับ ส่งผลกระทบต้นทุน 5-13 สตางค์/ลิตร ฉุดกำไรลดลง เตรียมแผนลดรายจ่าย หันลงทุนปั๊มแบบให้ลูกค้าเติมเอง

นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการปรับค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะประกาศใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2555 นี้ โดยยืนว่า ปตท.ได้ทยอยปรับขึ้นค่าแรงเด็กปั๊ม 300 บาทต่อวัน ไปก่อนหน้าแล้ว โดยยอมรับว่า ส่งผลต่อต้นทุนน้ำมัน 12-13 สตางค์ต่อลิตร

ทั้งนี้ ปตท.มีปั๊มขนาดใหญ กระจายทั่วประเทศ และมีเด็กพร้อมให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งยอมรับว่าต้นทุนคงจะผลักไปให้ผู้บริโภคได้ยากในภาวะราคาน้ำมันแพง ดังนั้น จึงต้องเร่งหารายได้ด้วยธุรกิจที่ไม่ใช้น้ำมันมากที่สุด และจะเพิ่มจำนวนปั๊มที่ให้บริการตัวเอง จากที่ขณะนี้ ปตท.มีเปิดแล้ว 4 แห่ง โดยคงจะเน้นไปที่ปั๊มขนาดใหญ่ และจูงใจลูกค้าด้วยการลดราคา 30 สตางค์ต่อลิตร จากอัตราปกติ

ด้าน นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากได้ปรับขึ้นค่าแรงงานเด็กปั๊มทั่วประเทศ 300 บาทต่อวัน ตั้งแต่ 1 มกราคม 2555 ไปแล้ว ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น 5-7 สตางค์ต่อลิตร โดยในส่วนปั๊มดีลเลอร์ บางจากฯ ได้ให้ค่าการตลาดเพิ่มจาก 60 เป็น 67 สตางค์ต่อลิตร เพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ทางบริษัทพยายามมุ่งหาธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันมากขึ้น โดยในปีนี้บางจากวางแผนขยายร้านกาแฟอินทนิล จากเดิม 170 เพิ่มเป็น 250 แห่ง ขยายศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและล้างรถ จากเดิม 190 เพิ่มเป็น 250 แห่ง ขยายร้านค้าสะดวกซื้อ ใบจาก เพิ่มจาก 120 เป็น 160 แห่ง และร่วมมือกับกลุ่มบิ๊กซี เปิดร้านค้าไม่ต่ำกว่า 5 แห่ง

ส่วนปั๊มที่ลูกค้าเติมน้ำมันด้วยตัวเอง บางจากฯ เปิดบริการมา 5 ปีแล้ว มีรวม 38 แห่ง ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ ตอนนี้ในช่วงราคาน้ำมันแพง ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น

โดยก่อนหน้านี้ นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า กรมกำลังศึกษาเพื่อส่งเสริมให้เปิดปั๊มเติมเองและปั๊มขนาดเล็กตามอาคาร เพื่อช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนค่าแรงแพง และช่วยแก้ปัญหาปั๊มใน กทม.ที่อาจจะหาเติมได้ยากขึ้น เพราะพื้นที่แพง โดยพบว่าปัจจุบันนี้ปั๊มเก่าที่หมดอายุสัญญากับเจ้าของที่ดิน ส่วนใหญ่จะไม่ต่ออายุสัญญา เหตุผลเพราะค่าการตลาดน้ำมันเมืองไทยอยู่ในเกณฑ์ต่ำ

ขณะที่ภาคเอกชนทั่วไป มองว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ในวันที่ 1 เมษายน 2555 นี้ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น 15-20% ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่กดดันในการทำธุรกิจ รวมทั้งยังกดดันให้ผู้ผลิตสินค้าอุปโภค บริโภคปรับราคาสินค้าขึ้นตามไปด้วย และเมื่อรวมผลของราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น