“พลังงาน” เผย ปริมาณนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 10% จากเดือน ม.ค.หลัง ปตท.ลดการผลิต เพื่อตรวจสอบระบบ ยอดใช้เบนซินลดวูบ 1.1% สวนทางการใช้น้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.6% เนื่องจาก รบ.ไม่มีนโยบายเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่มขึ้น
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงภาพรวมปริมาณการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 อยู่ที่ระดับ 1,048,000 บาร์เรลต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 10% จากเดือนมกราคม 2555 โดยมีมูลค่า 110,441 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6% จากเดือนมกราคม 2555 แยกเป็น การนำเข้าน้ำมันดิบจำนวน 974,000 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่า 103,992 ล้านบาท
การนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจำนวน 75,000 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่า 6,449 ล้านบาท สาเหตุที่มีการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากมีการนำเข้าก๊าซปิโตรเหลียมเหลว (แอลพีจี) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 เพิ่มมากขึ้น เพราะโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 ของบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ได้ลดกำลังการผลิตเพื่อตรวจสอบระบบตามแผนการประภัย 1 ปี
ขณะเดียวกัน มีปริมาณการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 210,000 บาร์เรลต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 11% โดยมีมูลค่า 23,834 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8% เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในระดับสูงจึงเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ส่งออกเพิ่มขึ้น
สำหรับปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เดือนกุมภาพันธ์ 2555 อยู่ที่ 20.5 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อน โดยในส่วนการใช้น้ำมันเบนซิน 95 และเบนซิน 91 ปรับตัวลดลง ขณะที่การใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น และมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอีก 1 บาทต่อลิตร ส่วนปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 56 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 2.6% จากเดือนก่อน เนื่องจากรัฐบาลไม่มีนโยบายเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่มขึ้น
ส่วนปริมาณการใช้ก๊าซแอลพีจี เดือนกุมภาพันธ์ 2555 อยู่ที่ 541,000 ตันต่อเดือน เพิ่มขึ้น 8% จากเดือนก่อน โดยภาคครัวเรือนลดลง 5% ภาคขนส่งลดลง 6% เนื่องจากมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 75 สตางค์ต่อกิโลกรัมเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ขระที่ภาคปิโตรเครมีลดลง 16% แต่ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 4%
อย่างไรก็ตาม การนำแอลพีจีในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 อยู่ที่ 160,000 ตันต่อเดือน และต้องมีภาระการจ่ายชดเชยเพิ่มขึ้นเป็น 3,807 ล้านบาท ส่วนการนำเข้าแอลพีจีวันที่ 1-21 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมามีการนำเข้าแล้วประมาณ 95,000 ตันต่อเดือน มีการจ่ายเงินชดเชยประมาณ 2,730 ล้านบาท
โดยคาดว่า ทั้งเดือนมีนาคมจะนำเข้าแอลพีจีประมาณ 160,000-170,000 ตันต่อวัน ส่วนแนวโน้มการนำเข้าเฉลี่ยทั้งปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับเดียวกันกับเดือนมีนาคม 2555 เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง และยังมีโรงปิโตรเคมีในประเทศที่จะเดินเครื่องผลิตเต็มที่
ขณะที่การใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 อยู่ที่ 7.7 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เพิ่มขึ้น 4% จากเดือนก่อนเนื่องจากราคาขายปลีกยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมาก โดยปัจจุบันราคาขายปลีกเอ็นจีวีในประเทศอยู่ที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม