ASTVผู้จัดการรายวัน - “พิซซ่า ฮัท” เปิดศึกดัมป์ราคาพิซซ่าเหลือแค่ 89 บาท ต่ำสุดในรอบ 12 ปี ชนคู่แข่งค่ายเดอะพิซซ่า คอมปะนี เร่งดึงคนเข้าร้านปั้นยอดขาย บริษัทแม่ใจป้ำปีนี้อัดงบลงทุนเพิ่ม 30%
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจพิซซ่า บริษัท ยัม เรสเตอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ พิซซ่าฮัท และเคเอฟซี ในไทย เปิดเผยว่า ตลาดรวมร้านอาหารฟาสต์ฟูดในปีนี้ คาดว่า จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจะมีร้านอาหารเข้ามาทำตลาดกันมากขึ้น
ในส่วนของบริษัทก็มีแผนการรุกตลาดหนักเช่นกัน ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโปรโมชันใหม่ “นุ่มฮิต ว้าว” ราคาถาดละ 89 บาทเข้ามาทำตลาด เพื่อต้องการขยายกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีที่จำหน่ายราคาต่ำสุดขนาดนี้ จากปกติที่ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 99 บาท ซึ่งการใช้ราคานี้จะช่วยทำให้บริษัทสามารถดึงกลุ่มลูกค้าทั้งครอบครัว วัยรุ่นและเด็ก ตัดสินใจเข้ามาในร้านได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ มั่นใจว่า หลังจากที่ได้เปิดตัวโปรโมชันใหม่นี้แล้ว จะส่งผลให้มีปริมาณลูกค้าเข้าร้านและปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว และผลักดันให้รายได้รวมในสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวมเติบโต 2 หลัก สัดส่วนรายได้จะแบ่งมาจาก ดีลิเวอรี่ 60% และนั่งทานในร้านกับซื้อกลับบ้านรวมกันที่ 40%
ขณะที่ช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวเมนูราคาพิเศษพร้อมการทำโปรโมชัน เช่น พิซซ่า เนื้อนุ่ม ราคาถาดละ 199 บาท สำหรับถาดแรก และ 99 บาท สำหรับถาดที่ 2 ซึ่งได้ผลการตอบรับอย่างดีมียอดขายเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติ 10-15%
ส่วนแผนการลงทุนปีนี้ วางแผนจะเปิดสาขาใหม่ของร้านพิซซ่าฮัทประมาณ 6 สาขา แต่หากได้ทำเลที่ดีและเหมาะสมกับเปิดสาขา บริษัทก็จะขยายสาขาเพิ่มจากแผนเดิมที่วางไว้ รวมไปถึงปีนี้บริษัทแม่ของพิซซ่าฮัทยังได้เพิ่มงบการดำเนินธุรกิจร้านเคเอฟซี และพิซซ่าฮัทในไทยสูงถึง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะบริษัทแม่เล็งเห็นศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทยัมฯในประเทศไทย โดยผลประกอบการปีที่แล้วมียอดขายเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าจะต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วม
“การทำตลาดของเราจากนี้ไปจะต้องมุ่งเน้นไปที่คุณภาพ และราคาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค เราต้องทำการวิจัยเพื่อค้นหาข้อมูลที่ผู้บริโภคต้องการเพื่อจะได้ตอบสนองได้ตรงจุด ต้องพูดคุยกับผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาปรับใช้ในแผนตลาด” นางนงนุช กล่าวสรุป
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจพิซซ่า บริษัท ยัม เรสเตอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ พิซซ่าฮัท และเคเอฟซี ในไทย เปิดเผยว่า ตลาดรวมร้านอาหารฟาสต์ฟูดในปีนี้ คาดว่า จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจะมีร้านอาหารเข้ามาทำตลาดกันมากขึ้น
ในส่วนของบริษัทก็มีแผนการรุกตลาดหนักเช่นกัน ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโปรโมชันใหม่ “นุ่มฮิต ว้าว” ราคาถาดละ 89 บาทเข้ามาทำตลาด เพื่อต้องการขยายกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีที่จำหน่ายราคาต่ำสุดขนาดนี้ จากปกติที่ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 99 บาท ซึ่งการใช้ราคานี้จะช่วยทำให้บริษัทสามารถดึงกลุ่มลูกค้าทั้งครอบครัว วัยรุ่นและเด็ก ตัดสินใจเข้ามาในร้านได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ มั่นใจว่า หลังจากที่ได้เปิดตัวโปรโมชันใหม่นี้แล้ว จะส่งผลให้มีปริมาณลูกค้าเข้าร้านและปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว และผลักดันให้รายได้รวมในสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวมเติบโต 2 หลัก สัดส่วนรายได้จะแบ่งมาจาก ดีลิเวอรี่ 60% และนั่งทานในร้านกับซื้อกลับบ้านรวมกันที่ 40%
ขณะที่ช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวเมนูราคาพิเศษพร้อมการทำโปรโมชัน เช่น พิซซ่า เนื้อนุ่ม ราคาถาดละ 199 บาท สำหรับถาดแรก และ 99 บาท สำหรับถาดที่ 2 ซึ่งได้ผลการตอบรับอย่างดีมียอดขายเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติ 10-15%
ส่วนแผนการลงทุนปีนี้ วางแผนจะเปิดสาขาใหม่ของร้านพิซซ่าฮัทประมาณ 6 สาขา แต่หากได้ทำเลที่ดีและเหมาะสมกับเปิดสาขา บริษัทก็จะขยายสาขาเพิ่มจากแผนเดิมที่วางไว้ รวมไปถึงปีนี้บริษัทแม่ของพิซซ่าฮัทยังได้เพิ่มงบการดำเนินธุรกิจร้านเคเอฟซี และพิซซ่าฮัทในไทยสูงถึง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะบริษัทแม่เล็งเห็นศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทยัมฯในประเทศไทย โดยผลประกอบการปีที่แล้วมียอดขายเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าจะต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วม
“การทำตลาดของเราจากนี้ไปจะต้องมุ่งเน้นไปที่คุณภาพ และราคาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค เราต้องทำการวิจัยเพื่อค้นหาข้อมูลที่ผู้บริโภคต้องการเพื่อจะได้ตอบสนองได้ตรงจุด ต้องพูดคุยกับผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาปรับใช้ในแผนตลาด” นางนงนุช กล่าวสรุป