xs
xsm
sm
md
lg

“พิซซ่าฮัท”ดั๊มต่ำสุดรอบ12ปี“ยัม”อัดงบเพิ่ม30%สู้ไมเนอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “พิซซ่า ฮัท” เปิดศึก ดั๊มราคาพิซซ่าเหลือแค่ 89 บาท ต่ำสุดในรอบ 12 ปี ชนคู่แข่งค่ายเดอะพิซซ่า คอมปะนี เร่งดึงคนเข้าร้านปั้นยอดขาย บริษัทแม่ใจปล้ำปีนี้อัดงบลงทุนเพิ่ม 30%

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจพิซซ่า บริษัท ยัมเรสเตอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ พิซซ่าฮัทและเคเอฟซีในไทย เปิดเผยว่า ตลาดรวมร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในปีนี้คาดว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจะมีร้านอาหารเข้ามาทำตลาดกันมากขึ้น

ในส่วนของบริษัทก็มีแผนการรุกตลาดหนักเช่นกัน ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโปรโมชั่นใหม่ “นุ่มฮิต ว้าว” ราคาถาดละ 89 บาทเข้ามาทำตลาด เพื่อต้องการขยายกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีที่จำหน่ายราคาต่ำสุดขนาดนี้ จากปกติที่ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 99 บาท ซึ่งการใช้ราคานี้จะช่วยทำให้บริษัทสามารถดึงกลุ่มลูกค้าทั้งครอบครัว วัยรุ่นและเด็ก ตัดสินใจเข้ามาในร้านได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ มั่นใจว่าหลังจากที่ได้เปิดตัวโปรโมชั่นใหม่นี้แล้ว จะส่งผลให้มีปริมาณลูกค้าเข้าร้านและปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว และผลักดันให้รายได้รวมในสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวมเติบโต 2 หลัก สัดส่วนรายได้จะแบ่งมาจาก ดีลิเวอรี่ 60% และนั่งทานในร้านกับซื้อกลับบ้านรวมกันที่ 40%

ขณะที่ช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวเมนูราคาพิเศษพร้อมการทำโปรโมชั่น เช่น พิซซ่า เนื้อนุ่ม ราคาถาดละ 199 บาทสำหรับถาดแรกและ 99 บาทสำหรับถาดที่ 2 ซึ่งได้ผลการตอบรับอย่างดีมียอดขายเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติ 10-15%

ส่วนแผนการลงทุนปีนี้ วางแผนจะเปิดสาขาใหม่ของร้านพิซซ่าฮัทประมาณ 6 สาขา แต่หากได้ทำเลที่ดีและเหมาะสมกับเปิดสาขา บริษัทก็จะขยายสาขาเพิ่มจากแผนเดิมที่วางไว้ รวมไปถึงปีนี้บริษัทแม่ของพิซซ่าฮัทยังได้เพิ่มงบการดำเนินธุรกิจร้านเคเอฟซี และพิซซ่าฮัทในไทยสูงถึง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะบริษัทแม่เล็งเห็นศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทยัมฯในประเทศไทย โดยผลประกอบการปีที่แล้วมียอดขายเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าจะต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วม

“การทำตลาดของเราจากนี้ไปจะต้องมุ่งเน้นไปที่ คุณภาพและราคาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค เราต้องทำการวิจัยเพื่อค้นหาข้อมูลที่ผู้บริโภคต้องการเพื่อจะได้ตอบสนองได้ตรงจุด ต้องพูดคุยกับผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาปรับใช้ในแผนตลาด” นางนงนุช กล่าวสรุป
กำลังโหลดความคิดเห็น