“หม่อมอุ๋ย” มอง ศก.ปี 55 ดีกว่าปีก่อน แต่ไม่สูงเหมือนปี 53 ห่วงค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่จะเริ่ม 1 เม.ย.เป็นประเด็นสำคัญกดดันเงินเฟ้อในปีนี้ ชี้ ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนเล็กน้อย ช่วงที่เหลือของปี 55 หลังดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มกลับมาแข็งค่า โดยแบงก์ชาติไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซง พร้อมคาดสิ้นปีจะไม่เกิน 32 บาท/ดอลลาร์
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2555 โดยคาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 4% โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจโดยรวมได้เริ่มกลับมาฟื้นตัวจากช่วงไตรมาส 4/2554 ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้คงไม่มากเท่ากับปี 2553 เพราะภาคธุรกิจรายหลายก็ต้องมีการปิดกิจการลง โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี)
ขณะที่ตัวเลขการส่งออกในปีนี้คงเติบโตลดลงอยู่ที่ระดับ 14-15% จากอดีตที่ระดับ 20% หลังผู้ค้าหลักของไทยอย่างยุโรปนั้นเศรษฐกิจยังคงหดตัว ขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้คงจะชะลอตัวลงเล็กน้อย ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังกล่าวถึงนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อเดือน ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2555 นี้ เริ่มใน 7 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม และ นนทบุรี โดยเชื่อว่า จะเป็นประเด็นสำคัญที่กดดันให้อัตราเงินเฟ้อในปีนี้เพิ่มสูงขึ้น
ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้ มองว่า เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่ ณ สิ้นปีค่าเงินบาทคงไม่อ่อนค่าไปเกิน 32 บาทต่อดอลลาร์ หลังเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น
“เงินบาทปีนี้คงอ่อนค่าลงแต่คงไม่มาก และคงไม่ลงพรวดพราดเหมือนก่อน เป็นการอ่อนค่าโดยไม่ต้องเข้าไปแทรกแซง ซึ่งผมมองว่าการที่เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยอย่างนี้ ก็น่าจะเป็นผลดีต่อผู้ส่งออก” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวสรุปทิ้งท้าย