ผู้ค้าส่งสัญญาณปรับลดราคาขายปลีกน้ำมัน หากราคาน้ำมันโลกยังดิ่งลงต่อเนื่อง เผยถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ด้านกระทรวงพลังงานประชุมเข้มประเมินสถานการณ์ ก่อนชงผลสรุปเข้าประชุม กบง.เล็งปรับขึ้นราคาก๊าซรถยนต์ และน้ำมันกลุ่มเบนซิน ตามแผนเดิม “อารักษ์” เตรียมเชิญผู้ค้ามาหารือการสำรองน้ำมัน หลังสถานการณ์ในอิหร่านน่าเป็นห่วง
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์ราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศ โดยระบุว่า หากราคาน้ำมันสิงคโปร์ที่ไทยใช้อ้างอิงปรับลดลงตามน้ำมันสหรัฐที่ลดลงแรงกว่า 2 ดอลลาร์ ก็จะส่งผลให้ราคาขายปลีกของไทยปรับลดลงในช่วง 2-3 วันนี้ได้ จากที่ค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่ 1.40 บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันเฉลี่ยในปีนี้ จะไม่ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นั่นหมายถึงราคายังคงสูง คนไทยคงต้องรับมือพลังงานแพงต่อเนื่องทั้งน้ำมัน ก๊าซ และไฟฟ้า โดยเฉพาะในส่วนของก๊าซหุงต้มราคาสูงกว่า 1,200 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งหากมีการขยับขึ้นราคาภาคครัวเรือนตามแผนของรัฐบาลก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่คงต้องทยอยขึ้นเพื่อลดผลกระทบค่าครองชีพ
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เมื่อนวานนี้ กระทรวงพลังงานได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อระดมความเห็นทั้งหมด ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในวันที่ 8 มีนาคม 2555 (วันนี้) โดยที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า กบง.จะเห็นชอบให้มีการปรับโครงสร้างราคาพลังงานรอบที่ 3 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งผลให้วันที่ 16 มีนาคม 2555 นี้ ราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์จะปรับขึ้นอีก 1.07 บาทต่อลิตร ราคาเอ็นจีวีขึ้นอีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม และราคาแอลพีจีขึ้นอีก 41 สตางค์ต่อลิตร
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแก๊สโซฮอล์ อาจจะพิจารณาไม่ปรับขึ้นราคาเพื่อทำให้มีส่วนต่างกับเบนซินสูงขึ้นจูงใจให้คนใช้แก๊สโซฮอล์มากขึ้น นอกจากนี้ จะมีการขยายวงเงินกู้ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มจาก 1 หมื่นล้านบาท เป็นไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท หลังจากที่เงินกองทุนขาดทุนไปแล้ว 2 หมื่นล้านบาท และมีการกู้ไปแล้ว 6 พันล้านบาท โดยเงินกองทุนน้ำมันส่วนใหญ่เป็นการอุดหนุนราคาแอลพีจี
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน เตรียมเรียกผู้ค้าน้ำมัน และผู้เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกัน เกี่ยวกับมาตรการสำรองน้ำมันเพิ่มในเร็วๆ นี้ จากปัจจุบันมีการสำรองน้ำมันตามกฎหมายร้อยละ 5 หรือ ประมาณ 18 วัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 8 หรือประมาณ 28 วันหรือไม่ ซึ่งจะต้องหารือในรายละเอียดก่อน
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องสำรองน้ำมันเพิ่ม เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศอิหร่านน่าเป็นห่วง เพราะหากปริมาณน้ำมันในตลาดโลกลดลง ก็จะส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกแพงขึ้น จึงต้องหาแนวทางรับมือ อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงาน จะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด