xs
xsm
sm
md
lg

ม.หอการค้าฯ ยอมรับ บึ้มกลางกรุงกระทบท่องเที่ยว Q1 คาดฉุดจีดีพีวูบลง 0.1-0.2%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ม.หอการค้า มองเหตุการณ์ระเบิดใน กทม.กระทบท่องเที่ยวไม่เกิน 2 เดือน ยอดนักท่องเที่ยวลดลงประมาณ 1-2 แสนคน สูญเงินกว่า 1 หมื่นล้าน “ธนวรรธน์” ชี้ สถานการณ์จะคลี่คลายได้เร็วมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่ต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะภาพข่าวที่ออกไปนั้น ค่อนข้างเป็นภาพที่น่ากลัว และรุนแรง พร้อมคาดกระทบจีดีพีลดลง 0.1-0.2%

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นใน กทม.ในสัปดาห์นี้ อาจจะมีผลกระทบกับการท่องเที่ยวบ้าง แต่คาดว่า จะไม่เกิน 2 เดือน โดยอาจทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวในไตรมาส 1/2555 ลดลงประมาณ 1-2 แสนคน และมีผลกระทบต่อผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไม่เกิน 0.1-0.2%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์ฯ ยอมรับว่า ระยะ 1-2 เดือนนี้ อาจทำให้นักท่องเที่ยวที่มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยไม่เดินทางมาท่องเที่ยว คาดว่ายอด นักท่องเที่ยวจะหายไปประมาณ 100,000 คน หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่ลดลง 10,000 ล้านบาท ส่วนสถานการณ์จะคลี่คลายได้เร็วมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่ต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะภาพข่าวที่ออกไปนั้นค่อนข้างเป็นภาพที่น่ากลัวและรุนแรง

ทั้งนี้ ผลสำรวจกรณีผลกระทบเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ ต่อภาคธุรกิจ พบว่าภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุระเบิดมากที่สุด คือ ภาคธุรกิจบริการ โดยอันดับแรก 51.1% คือธุรกิจโรงแรม, รีสอร์ต รองลงมา 20% คือ ธุรกิจท่องเที่ยว และที่เหลือเป็นธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร สถานบันเทิง เป็นต้น

ผลสำรวจยังพบว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นย่านสุขุมวิท 71 เมื่อวันที่ 14 ก.พ.55 จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวมากเกือบ 70% แบ่งเป็น กระทบมากที่สุด 8.9% กระทบมาก 20% และกระทบปานกลาง 37.8% โดยมีเพียง 28.9% ที่ระบุว่ากระทบน้อย และอีก 4% กระทบน้อยมาก

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจส่วนใหญ่มองว่าเหตุระเบิดดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยประมาณ 1-2 เดือน และกระทบโดยตรงต่อธุรกิจประมาณ 2-3 เดือน เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง, ยอดจองทัวร์ลดลง, รายได้ลดลง และมีต้นทุนในการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น

ส่วนผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่มีต่อประเทศไทยโดยรวมนั้น นักธุรกิจส่วนใหญ่ 49.8% มองว่ากระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศมากที่สุด รองลงมาก 15.6% ระบุว่า กระทบต่อการลงทุนทำธุรกิจในไทยของนักลงทุนต่างชาติ และอันดับสาม 13.4% มองว่ากระทบต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

โดย 3 ปัจจัยหลักที่ภาคธุรกิจมองว่ามีผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจของประเทศและภาคธุรกิจของตัวเองมากที่สุด คือ สถานการณ์ทางการเมือง, ภัยธรรมชาติ และความเชื่อมั่น พร้อมมองว่า 3 ปัญหาดังกล่าวนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องให้ความสนใจและแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงโดยเร็วที่สุด

นายธนวรรธน์ ประเมินว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวอาจได้รับผลกระทบในช่วงระยะ 1-2 เดือนนี้จากเหตุระเบิดย่านสุขุมวิท รวมทั้งการประกาศเตือนพลเมืองของสถานทูตต่างๆ ที่ให้นักท่องเที่ยวเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งผลกระทบดังกล่าวอาจทำให้ยอดนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ลดลงประมาณ 5-10% หรือคิดเป็นจำนวน 1-2 แสนคน และส่งผลให้สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาท

แต่หากรวมผลกระทบอื่นๆ ที่มีต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยวทั้งเข้าไว้ด้วย เช่น การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวลดลง, การท่องเที่ยวในประเทศชะลตัว จะคิดเป็นรายได้ที่สูญเสียไปประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปีนี้ไม่เกิน 0.1-0.2% เท่านั้น

อย่างไรก็ดี ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจยังคงคาดว่าในปีนี้ GDP จะยังเติบโตได้ 4.5-5.0% ตามที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวไม่บานปลาย และรัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ รวมทั้งชี้แจงและทำความเข้าใจต่อสถานทูตประเทศต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
กำลังโหลดความคิดเห็น