ASTVผู้จัดการรายวัน-“บุญทรง”ไม่แคร์ หั่นงาน”ศิริวัฒน์”เกลี้ยง แถมยึดงานดูแลค่าครองชีพและข้าวจาก”ภูมิ”มาคุมเอง จับตาป่วนแน่ หลัง”ภูมิ”ยังคุมอนุกรรมการที่ดูแลเรื่องข้าวอีก 5 ชุด
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ทำการแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการทั้ง 2 คนแล้ว โดยให้นายภูมิ สาระผล กำกับดูแลกรมส่งเสริมการส่งออก และกรมทรัพย์สินทางปัญญา นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ กำกับดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) โดยตัวนายบุญทรงเอง ดูแลกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และองค์การคลังสินค้า (อคส.)
ทั้งนี้ การแบ่งงานดังกล่าว เป็นการเกลี่ยงานใหม่จากสมัยที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรมว.พาณิชย์ โดยนายบุญทรงได้ยึดงานในส่วนที่นายศิริวัฒน์กำกับดูแล มาให้นายภูมิดูแลแทน แล้วดึงงานที่นายภูมิเคยกำกับดูแลมาดูแลเอง
รายงานข่าวแจ้งว่า การแบ่งงานในลักษณะดังกล่าว เห็นได้ชัดว่า นายบุญทรงต้องการที่จะเข้ามาดูแลในเรื่องค่าครองชีพด้วยตนเอง เพราะขณะนี้มีปัญหาในเรื่องค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังต้องการดึงงานข้าวมาดูแลเองอย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งการรับจำนำ การขายข้าวในสต๊อกที่มีอยู่ เพราะรัฐบาลกำลังจะเริ่มโครงการจำนำข้าวนาปรังที่คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-30 มิ.ย.2555 และหาทางขายข้าวในสต๊อกที่มีอยู่กว่า 5 ล้านตัน
ดังนั้น เท่ากับว่านายศิริวัฒน์โดนยึดงานไปหมด เพราะมีกรมให้กำกับดูแลเพียงแค่ 1 กรม ส่วนอีก 2 องค์การมหาชน ทุกวันนี้ก็แทบจะไม่มีบทบาทอะไร ส่วนนายภูมิ ก็ยังถือว่าได้ดูกรมใหญ่อยู่ โดยเฉพาะการได้ดูแลเรื่องส่งออก แม้จะถูกปลดออกจากการกำกับดูแลค่าครองชีพและเรื่องข้าวก็ตาม
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ผู้ใกล้ชิดนายภูมิเล่าให้ฟังว่า ไม่ขัดข้องที่มีการแบ่งงานใหม่ แต่ก็รู้สึกน้อยใจ และบ่นกับผู้ใกล้ชิดว่า อยากจะเอาอะไรก็เอาไป อยากดูเรื่องอะไรก็เอาไปดู เพราะนายบุญทรงเป็นรัฐมนตรีว่าการ ส่วนนายศิริวัฒน์ ก็ได้แต่รับสภาพ โดยผู้ใกล้ชิดประเมินว่า เป็นไปตามเกม เพราะเป็นอำนาจที่นายบุญทรงจะทำได้แต่ไม่นึกว่าจะเหลือกรมให้กำกับดูแลน้อยขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตาว่า ในการกำกับดูแลเรื่องข้าวอาจจะมีปัญหาได้ เพราะขณะนี้นายภูมิเป็นประธานคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ถึง 5 คณะ ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต 2.คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการตลาด 3.คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำ 4.คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว 5.คณะอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการรับจำนำข้าว ทำให้นายภูมิยังมีอำนาจในเรื่องข้าว ทั้งการรับจำนำ และการระบายข้าว ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือไม่
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ทำการแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการทั้ง 2 คนแล้ว โดยให้นายภูมิ สาระผล กำกับดูแลกรมส่งเสริมการส่งออก และกรมทรัพย์สินทางปัญญา นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ กำกับดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) โดยตัวนายบุญทรงเอง ดูแลกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และองค์การคลังสินค้า (อคส.)
ทั้งนี้ การแบ่งงานดังกล่าว เป็นการเกลี่ยงานใหม่จากสมัยที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรมว.พาณิชย์ โดยนายบุญทรงได้ยึดงานในส่วนที่นายศิริวัฒน์กำกับดูแล มาให้นายภูมิดูแลแทน แล้วดึงงานที่นายภูมิเคยกำกับดูแลมาดูแลเอง
รายงานข่าวแจ้งว่า การแบ่งงานในลักษณะดังกล่าว เห็นได้ชัดว่า นายบุญทรงต้องการที่จะเข้ามาดูแลในเรื่องค่าครองชีพด้วยตนเอง เพราะขณะนี้มีปัญหาในเรื่องค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังต้องการดึงงานข้าวมาดูแลเองอย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งการรับจำนำ การขายข้าวในสต๊อกที่มีอยู่ เพราะรัฐบาลกำลังจะเริ่มโครงการจำนำข้าวนาปรังที่คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-30 มิ.ย.2555 และหาทางขายข้าวในสต๊อกที่มีอยู่กว่า 5 ล้านตัน
ดังนั้น เท่ากับว่านายศิริวัฒน์โดนยึดงานไปหมด เพราะมีกรมให้กำกับดูแลเพียงแค่ 1 กรม ส่วนอีก 2 องค์การมหาชน ทุกวันนี้ก็แทบจะไม่มีบทบาทอะไร ส่วนนายภูมิ ก็ยังถือว่าได้ดูกรมใหญ่อยู่ โดยเฉพาะการได้ดูแลเรื่องส่งออก แม้จะถูกปลดออกจากการกำกับดูแลค่าครองชีพและเรื่องข้าวก็ตาม
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ผู้ใกล้ชิดนายภูมิเล่าให้ฟังว่า ไม่ขัดข้องที่มีการแบ่งงานใหม่ แต่ก็รู้สึกน้อยใจ และบ่นกับผู้ใกล้ชิดว่า อยากจะเอาอะไรก็เอาไป อยากดูเรื่องอะไรก็เอาไปดู เพราะนายบุญทรงเป็นรัฐมนตรีว่าการ ส่วนนายศิริวัฒน์ ก็ได้แต่รับสภาพ โดยผู้ใกล้ชิดประเมินว่า เป็นไปตามเกม เพราะเป็นอำนาจที่นายบุญทรงจะทำได้แต่ไม่นึกว่าจะเหลือกรมให้กำกับดูแลน้อยขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตาว่า ในการกำกับดูแลเรื่องข้าวอาจจะมีปัญหาได้ เพราะขณะนี้นายภูมิเป็นประธานคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ถึง 5 คณะ ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต 2.คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการตลาด 3.คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำ 4.คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว 5.คณะอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการรับจำนำข้าว ทำให้นายภูมิยังมีอำนาจในเรื่องข้าว ทั้งการรับจำนำ และการระบายข้าว ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือไม่