xs
xsm
sm
md
lg

“รง.สิ่งทอ” แห่ย้ายฐานผลิตซบเพื่อนบ้าน หนีค่าแรงไทยราคาแพง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ส.อ.ท.ชี้ รง.สิ่งทอฯ เริ่มแห่ย้ายฐานผลิตซบเพื่อนบ้าน คาด หนีค่าแรงไทยราคาแพง ระบุ อย่างน้อย 60 ราย หอบเม็ดเงินไปพม่า ลาว เขมร และ เวียดนาม เพราะค่าแรงต่ำกว่า 4-8 เท่าตัว

นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น อาทิ อุตสาหกรรมรองเท้า, สิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่มกว่า 60 บริษัท ได้ย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า เวียดนาม ลาว และ กัมพูชา เร็วขึ้น หลังไทยมีนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน ค่าแรงต่ำกว่ามากราว 4-8 เท่าตัว

ทั้งนี้ จากการสอบถามพบว่า ค่าจ้างแรงงานในไทยเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 290 เหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ค่าจ้างแรงงาน ในพม่าอยู่ที่ 33.4 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน ต่ำกว่าไทย 8.6 เท่า กัมพูชาอยู่ที่ 66 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน ต่ำกว่าไทย 4.75 เท่า เวียดนามอยู่ที่ 55-60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน ต่ำกว่าไทย 4.8 เท่า และลาวอยู่ที่ 81 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน ต่ำกว่าไทย 3.53 เท่า

“ภาครัฐควรจะให้การส่งเสริมให้ไทยมีการเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น แทนที่จะมองเพียงการย้ายฐานการลงทุนเป็นเรื่องที่ไม่ดี เพราะการย้ายฐานลงทุนไปประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาแหล่งทรัพยากรและค่าแรงที่ถูกกว่า เป็นเรื่องที่นักลงทุนทุกคนมองไว้อยู่แล้ว เพียงแต่พอมีเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน เข้ามาเป็นตัวกระตุ้นให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นเท่านั้น”

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมไทยยังเผชิญปัญหาการขาดแคลนแรงงานทุกส่วน โดยมีตัวเลข การว่างงานเพียงแค่ 0.7% เท่านั้น ส่วนที่พื้นที่เกษตรกรรมและทรัพยากรของไทยก็ลดน้อยลง ขณะที่ประเทศ เพื่อนบ้านอย่างพม่าที่เพิ่งเปิดประเทศก็มีตลาดที่ใหญ่ รวมทั้งยังได้รับสิทธิพิเศษ ทางภาษีศุลกากร (จีพีเอส) และยังไม่ถูกกีดกันทางการค้า ซึ่งจะช่วยเป็น แต้มต่อในการแข่งขันให้อุตสาหกรรมไทย เหมือนกับประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีที่โตจากการลงทุนในต่างประเทศ

นายวัลลภ วิตนากร กรรมการ และที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรม เครื่องนุ่งห่มไทย ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไฮ-เทค กรุ๊ป กล่าวว่า จากสัญญาณที่สหรัฐฯ และยุโรป ส่งสัญญาณจะยกเลิกการเข้าไปแทรกแซงประเทศพม่า ทำให้นักลงทุนมีความสนใจจะเข้าไปลงทุนในประเทศพม่ามากขึ้น เพราะประเมินว่า หลังจากนี้ ระบบสาธารณูปโภคของพม่าจะได้รับการพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้น รวมทั้งพม่ายังมีการให้สิทธิประโยชน์เพื่อ จูงใจนักลงทุนโดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ต้นทุนด้านค่าจ้างงานค่อนข้างต่ำที่ 2,000-2,500 บาทต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าไทย 3-4 เท่า ล้วนดึงดูดนักลงทุนให้เข้าไปลงทุนมากขึ้นในอนาคต

โดยที่ผ่านมา นักลงทุนไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรม สิ่งทอเครื่องนุ่งห่มระดับ 1 ใน 10 หรือท็อปเทน ได้ออกไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นทั้งลาว กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซีย เช่น ลิเบอร์ตี้กรุ๊ป, ทองไทยกรุ๊ป, ฮงเส็งกรุ๊ป และไนซ์กรุ๊ป โดยในส่วนของไฮ-เทคกรุ๊ป ก็มีการเข้าไปลงทุนในประเทศลาว เวียดนาม และล่าสุดมีความสนใจที่จะลงทุนในพม่าด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น