xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนมึน! รบ.ปล่อยน้ำมันขึ้นตามกลไกตลาด แต่คุมราคาสินค้า-โวยแก้ปัญหาไม่ตรงจุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กิตติรัตน์” ห่วงสินค้ากลุ่มนำเข้าวัตถุดิบต้นทุนพุ่ง ตามทิศทางน้ำมันในตลาดโลก ห่วงราคาสินค้าขยับขึ้นราคา พร้อมเข้าดูแลค่าครองชีพ “พยุงศักดิ์” เหน็บ “รบ.ปู” ปล่อยน้ำมันขึ้นราคาตามกลไกตลาด แต่ทำไมกลับไม่ปล่อยให้สินค้าขึ้นตามกลไกตลาด พร้อมแนะหน้าที่ของภาครัฐ ต้องดูแลไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้า ค้ากำไรเกินควร หรือการผูกขาด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย “บิ๊กสหพัฒน์” อยากให้รัฐบาล เข้ามาดูแลโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศให้มีความโปร่งใส และไม่อยากให้ราคาน้ำมันไทยต้องไปผูกติดที่ตลาดสิงคโปร์



นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นห่วงกลุ่มสินค้าที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากตลาดโลกมาผลิตจะมีต้นทุนสูงขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นจากปัญหาความขัดแย้งภายในภูมิภาคตะวันออกกลาง ประกอบกับช่วงฤดูหนาวทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันดิบมากกว่าปกติ

“เราไม่นิ่งนอนใจ การทำงานของกระทรวงจะติดตามภาวะราคาอย่างใกล้ชิด โดยจะพยายามดูแลราคาสินค้าไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปมากจนกระทบกับผู้บริโภคมากเกินไป และจะมีการทำงานระหว่างกระทรวงเศรษฐกิจที่จะดูแลราคาพลังงานและราคาสินค้าให้เป็นไปอย่างเหมาะสม”

นายกิตติรัตน์ กล่าวเสริมว่า ตนเองไม่อยากให้ประชาชนกังวลต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น เพราะทิศทางราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังคงแกว่งตัว และมีปัจจัยที่จะทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จากปัญหาเศรษฐกิจภายในภูมิภาคยุโรป (อียู) อีกทั้งผู้ผลิตสินค้าก็ยังไม่ส่งสัญญาณที่จะขยับราคา เพราะราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นยังเป็นผลกระทบระยะสั้นที่ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.เห็นด้วยที่ราคาพลังงานขยับสูงขึ้นให้สอดคล้องกับกลไกตลาด ทั้งราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) แต่การขยับราคาพลังงานรัฐบาลก็ควรปล่อยให้ราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาดควบคู่กันไปด้วย โดยหน้าที่ของภาครัฐคือต้องดูแลไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้า ค้ากำไรเกินควร หรือไม่ให้เกิดการผูกขาด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ยังจะไม่รับพิจารณาให้ปรับราคาสินค้าจากเหตุผลราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เพราะน้ำมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของต้นทุนสินค้า ขณะที่ต้นทุนโดยตรง โดยเฉพาะวัตถุดิบยังอยู่ในภาวะปกติ จึงควรที่จะใช้วิธีการบริหารจัดการ เพื่อให้จำหน่ายสินค้าได้ในราคาเดิมต่อไป

นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหารด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า จากต้นทุนสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะราคาน้ำมัน ซึ่งขณะนี้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่กว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากช่วงหลายปีก่อนที่ราคาอยู่ที่ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล แต่ผู้ประกอบการสินค้าอุปโภค-บริโภคก็ยังปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นได้ยาก เนื่องจากการแข่งขันในตลาดค่อนข้างรุนแรง หากปรับราคาสินค้าอาจทำให้เสียเปรียบในด้านของการแข่งขัน ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงหันมาเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าแทนการปรับราคาสินค้าขึ้น

ขณะที่ นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากราคาราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ยอมรับว่า มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าของผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคมาก เพราะราคาน้ำมันที่ขึ้นเพียงลิตรละ 1 บาท ทำให้ต้นทุนผู้ผลิตเพิ่มขึ้นหลายล้านบาทแล้ว แต่ผู้ผลิตคงยังไม่ปรับขึ้นราคาในขณะนี้เพราะยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้

โดยในอนาคต หากราคาน้ำมันปรับขึ้นแรงกว่าเท่าตัว ผู้ผลิตก็คงไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ และต้องปรับขึ้นราคาอย่างแน่นอน ซึ่งในขณะนี้ ภาคเอกชนอยากให้รัฐบาล เข้ามาดูแลโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศให้มีความโปร่งใส และไม่อยากให้ราคาน้ำมันต้องไปผูกติดที่ตลาดสิงคโปร์
กำลังโหลดความคิดเห็น