ผู้บริโภคแห่ร้องสายด่วน 1569 สินค้ายังราคาโด่ง แม้น้ำจะลดลงแล้ว ระบุ นมข้นหวาน นมจืด อาหารสำเร็จรูป ข้าวแกง แบตเตอรี่รถยนต์ ครองแชมป์ “กิตติรัตน์” ยอมรับ ควบคุมได้ยาก เตรียมขอเพิ่มกลไกแข่งขันให้ประชาชน
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ถึงปัญหาสินค้าราคาแพงและขาดตลาดแม้ปัญหาน้ำท่วมจะคลี่คลายไปแล้ว โดยเฉพาะนมข้นหวาน นมข้นจืด แบตเตอรี่รถยนต์ และอาหารสำเร็จรูป แม้ขณะนี้จะมีการนำเข้าจากมาเลเซียแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ และมีราคาจำหน่ายสูงกว่าสถานการณ์ปกติถึงลังละ 400-500 บาท โดยนมข้นหวานมีราคาขายที่ 1,200 บาทในขนาดลัง 48 กระป๋อง และนมข้นจืดขายที่ลังละ 1,250 บาท ขายปลีกกระป๋องละ 27-30 บาท
นอกจากนี้ ยังพบว่า หาซื้อยากโดยต้องสั่งผ่านตัวแทนนำเข้าอย่างเดียว ขณะเดียวกัน ยังจำกัดปริมาณซื้อไม่เกินคนละครึ่งลังถึง 1 ลัง ส่วนตามห้างค้าปลีก เทสโก้ โลตัส และ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ก็ไม่มียี่ห้อคาร์เนชั่นวางจำหน่าย มีเพียงยี่ห้ออื่นที่ได้รับความนิยมน้อย เช่น นกเหยี่ยว พาเลซ เท่านั้น ขณะที่ราคาอาหารสำเร็จรูป ข้าวแกง อาหารตามสั่ง ตามท้องถนนทั่วไปก็มีการปรับราคาขึ้นมาจานละ 5-10 บาท
ส่วนราคาแบตเตอรี่รถยนต์ก็มีการปรับราคาขึ้นมาแล้วลูกละ 200-300 บาท เช่น ย่านวิภาวดีฯ และงามวงศ์วาน แม้ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์จะประกาศตรึงราคาไว้เท่าเดิมก็ตาม แต่เจ้าของร้านยืนยันว่าต้นทุนที่ส่งเข้ามายังร้านสูงขึ้นจากต้นทาง จึงทำให้ต้องปรับราคาขายขึ้น โดยปัจจุบันแบตเตอรี่แบบเติมน้ำ 60 แอมป์ อยู่ที่ลูกละ 1,900-2,000 บาท และแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง 2,300-2,400 บาท
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปัญหาอาหารสำเร็จรูปราคาแพงมีสาเหตุจากต้นทุนค่าเช่าตามห้างสรรพสินค้าที่สูง จึงทำให้อาหารมีราคาแพง ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้ร้านค้าทั่วไปขยับราคาสินค้าขึ้นตาม โดยปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว กระทรวงคงจะเข้าไปคุมราคาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จะพยายามหาแนวทางเพิ่มกลไกการแข่งขันให้ประชาชนแทน
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงความคืบหน้าในการผลิตและจำหน่ายข้าวถุงธงฟ้า ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถนำข้าวธงฟ้าออกมาจำหน่ายได้ เพราะได้มอบหมายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ไปพิจารณาปรับเงื่อนไขการผลิตข้าวถุงธงฟ้า โดยให้นำข้าวใหม่จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 มาผสม เพื่อให้มีคุณภาพดีขึ้น จากเดิมที่มติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ให้นำข้าวขาว 5% จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/55 มาปรับปรุงและบรรจุถุง ขนาด 5 กก.ปริมาณ 100,000 ตัน
สาเหตุที่จะล่าช้า เพราะต้องการปรับชนิดข้าวให้ประชาชนได้บริโภคข้าวที่มีคุณภาพดี จากที่มีการหารือส่วนใหญ่ข้าวจะมีลักษณะเสื่อมต้องปรับปรุงมาก ซึ่งอาจจะทำให้การวางจำหน่ายข้าวถุงธงฟ้าจะต้องเลื่อนเป็นต้นปี 2555 ไม่ทันปีนี้ ส่วนราคาขายยังเท่าเดิมถุงละ 110 บาท ซึ่งอาจจะช้าบ้าง แต่คงไม่เป็นไร เพราะตอนแรกที่รัฐบาลมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาขาดแคลนข้าว เพราะมีการซื้อข้าวกักตุนไว้ในช่วงที่น้ำท่วม
