“พาณิชย์” ปิดจุดเสี่ยงโกงจำนำข้าว ชง กกร.ใช้กฎหมายคุมเข้มข้าวข้ามเขต สกัดขนข้าวเพื่อนบ้านเข้ามาสวมสิทธิโครงการจำนำ เน้นพื้นที่จังหวัดติดชายแดน ขนย้ายข้าวเปลือกต้องขออนุญาต และต้องแจ้งสต๊อกตั้งแต่ 15 ตันขึ้นไป “กิตติรัตน์” นัดผู้เกี่ยวข้องหารือวันนี้ วางกรอบแนวทางการรับจำนำ “วัชรี” ปัดไฟเขียวข้าวถุงขึ้นราคา ย้ำ ต้นทุนเดิม ต้องขายราคาเดิมไปก่อน
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มี นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน วันที่ 29 ก.ย.นี้ พิจารณาอนุมัติมาตการทางกฎหมาย เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูการผลิตปี 2554/55 ที่จะเปิดโครงการวันที่ 7 ต.ค.โดยจะกำหนดมาตรการขนย้ายข้าวเปลือกในจังหวัดที่มีตะเข็บติดชายแดนทั้งหมดไปยังพื้นที่จังหวัดอื่น จะต้องได้รับอนุญาตจากค้าภายในจังหวัดก่อน และกำหนดให้ผู้ที่ครอบครองข้าวเปลือกตั้งแต่ 15 ตันขึ้นไป จะต้องแจ้งปริมาณให้ กกร.รับทราบ เพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์ในโครงการรับจำนำ
ทั้งนี้ หลังจากที่อาเซียนได้ลดภาษีสินค้าข้าวภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) เหลือ 0% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553 แต่ก็ไม่ได้อนุญาตให้มีการนำเข้าข้าวเปลือก โดยการเปิดตลาดให้มีการนำเข้าข้าวจากอาเซียนได้เฉพาะปลายข้าวที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่เมื่อมีโครงการรับจำนำ จึงต้องตรวจสอบเข้มงวด เพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา และต้องการปิดจุดรั่วไหลทั้งหมด
นางวัชรี กล่าวว่า วันนี้ (28 ก.ย.) กรมฯ จะได้จัดซักซ้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำทั้งหมดมาร่วมประชุม ซึ่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะมอบนโยบายให้กับหน่วยงานทั้งหมดด้วยตนเอง และหารือเพื่อปิดจุดเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว
สำหรับการรับจำนำครั้งนี้ จะมีการปรับหลักการบริหารจัดการ โดยดึงกระทรวงมหาดไทยเข้ามาร่วมกำกับดูแล หรือให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมตรวจสอบในจุดรับจำนำข้าวด้วย
นอกจากนี้ ยังเพิ่มการกำกับดูแลการสีแปรสภาพข้าว เมื่อสั่งสีแปรข้าวเปลือกแล้วจะต้องมีการส่งมอบข้าวให้กับรัฐบาลทันที และส่งมอบข้าวเข้าโกดังกลางนั้น โดยจะมีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบการทำงานของเซอร์เวเยอร์ เพื่อป้องกันปัญหาทุจริต เมื่อส่งมอบเข้าโกดังกลางแล้ว จะมี 3 ฝ่ายคุมกุญแจ คือ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เซอร์เวเยอร์ และคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด จากเดิมที่ให้อคส.และเซอร์เวเยอร์ดูแลเท่านั้น
ส่วนกรณีผู้ประกอบการข้าวถุงส่งสัญญาณขอปรับขึ้นราคาข้าวถุงอีกครั้งนั้น กรมฯ ได้แจ้งผู้ประกอบการไปแล้วว่าหากรายใดมีภาระต้นทุนสูงขึ้นจริง ก็ให้เสนอรายละเอียดต้นทุนเข้ามาให้กรมฯ พิจารณา แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ผลิตแจ้งเรื่องเข้ามาเลย จึงไม่มีการปรับขึ้นราคาในเร็วๆ นี้ แน่นอน เนื่องจากราคาข้าวที่ขึ้นในปัจจุบัน เมื่อพิจารณาแล้วยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ที่สำคัญ ทราบว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตข้าวถุงรายใหญ่หลายราย มีการกว้านซื้อข้าวเก็บไว้จำนวนมากในช่วงที่ราคาข้าวยังไม่สูง ซึ่งสามารถใช้ผลิตข้าวถุงไปได้อีกระยะหนึ่ง ส่วนแนวทางการทำข้าวถุงธงฟ้า จะพิจารณาจากสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดเป็นหลัก หากราคาปรับขึ้นจริงก็พร้อมเดินหน้าทำได้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มี นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน วันที่ 29 ก.ย.นี้ พิจารณาอนุมัติมาตการทางกฎหมาย เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูการผลิตปี 2554/55 ที่จะเปิดโครงการวันที่ 7 ต.ค.โดยจะกำหนดมาตรการขนย้ายข้าวเปลือกในจังหวัดที่มีตะเข็บติดชายแดนทั้งหมดไปยังพื้นที่จังหวัดอื่น จะต้องได้รับอนุญาตจากค้าภายในจังหวัดก่อน และกำหนดให้ผู้ที่ครอบครองข้าวเปลือกตั้งแต่ 15 ตันขึ้นไป จะต้องแจ้งปริมาณให้ กกร.รับทราบ เพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์ในโครงการรับจำนำ
ทั้งนี้ หลังจากที่อาเซียนได้ลดภาษีสินค้าข้าวภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) เหลือ 0% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553 แต่ก็ไม่ได้อนุญาตให้มีการนำเข้าข้าวเปลือก โดยการเปิดตลาดให้มีการนำเข้าข้าวจากอาเซียนได้เฉพาะปลายข้าวที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่เมื่อมีโครงการรับจำนำ จึงต้องตรวจสอบเข้มงวด เพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา และต้องการปิดจุดรั่วไหลทั้งหมด
นางวัชรี กล่าวว่า วันนี้ (28 ก.ย.) กรมฯ จะได้จัดซักซ้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำทั้งหมดมาร่วมประชุม ซึ่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะมอบนโยบายให้กับหน่วยงานทั้งหมดด้วยตนเอง และหารือเพื่อปิดจุดเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว
สำหรับการรับจำนำครั้งนี้ จะมีการปรับหลักการบริหารจัดการ โดยดึงกระทรวงมหาดไทยเข้ามาร่วมกำกับดูแล หรือให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมตรวจสอบในจุดรับจำนำข้าวด้วย
นอกจากนี้ ยังเพิ่มการกำกับดูแลการสีแปรสภาพข้าว เมื่อสั่งสีแปรข้าวเปลือกแล้วจะต้องมีการส่งมอบข้าวให้กับรัฐบาลทันที และส่งมอบข้าวเข้าโกดังกลางนั้น โดยจะมีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบการทำงานของเซอร์เวเยอร์ เพื่อป้องกันปัญหาทุจริต เมื่อส่งมอบเข้าโกดังกลางแล้ว จะมี 3 ฝ่ายคุมกุญแจ คือ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เซอร์เวเยอร์ และคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด จากเดิมที่ให้อคส.และเซอร์เวเยอร์ดูแลเท่านั้น
ส่วนกรณีผู้ประกอบการข้าวถุงส่งสัญญาณขอปรับขึ้นราคาข้าวถุงอีกครั้งนั้น กรมฯ ได้แจ้งผู้ประกอบการไปแล้วว่าหากรายใดมีภาระต้นทุนสูงขึ้นจริง ก็ให้เสนอรายละเอียดต้นทุนเข้ามาให้กรมฯ พิจารณา แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ผลิตแจ้งเรื่องเข้ามาเลย จึงไม่มีการปรับขึ้นราคาในเร็วๆ นี้ แน่นอน เนื่องจากราคาข้าวที่ขึ้นในปัจจุบัน เมื่อพิจารณาแล้วยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ที่สำคัญ ทราบว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตข้าวถุงรายใหญ่หลายราย มีการกว้านซื้อข้าวเก็บไว้จำนวนมากในช่วงที่ราคาข้าวยังไม่สูง ซึ่งสามารถใช้ผลิตข้าวถุงไปได้อีกระยะหนึ่ง ส่วนแนวทางการทำข้าวถุงธงฟ้า จะพิจารณาจากสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดเป็นหลัก หากราคาปรับขึ้นจริงก็พร้อมเดินหน้าทำได้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย