“พาณิชย์” สั่งผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าลดราคา เพื่อช่วยผู้ประสบภัยเตรียมรอคำตอบใน 1 สัปดาห์ ผู้ประกอบการครวญ รง. หลายแห่ง เสียหายจากน้ำท่วม ด้านธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ “อินเด็กซ์-เอสบีฯ-คอนเซ็ปต์” ประกาศหั่นราคา 30-60%
นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ในวันที่ 16 ธันวาคม 2554 (วันนี้) โดยระบุว่า ผู้บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด, บริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ จำกัด และคอนเซ็ปต์ เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ ได้มีการลดราคาเฟอร์นิเจอร์ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบ และฟื้นฟูหลังน้ำท่วมไปแล้ว และพร้อมที่จะขยายเวลาการลดราคาสินค้าตั้งแต่ 30-60% ออกไปจนถึงสิ้นปี 2554
ส่วนผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังไม่ตอบรับว่าจะลดราคาสินค้า โดยรมช.พาณิชย์ ให้ไปหารือผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องภายใน 1 สัปดาห์ และกลับมาหารือกันใหม่อีกครั้งว่า จะลดราคาลงได้หรือไม่ เพราะผู้ประกอบการอ้างว่า โรงงานบางส่วนได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้หยุดการผลิต
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมจัดโครงการธงฟ้าราคาประหยัด เพื่อกระจายสินค้าสู่ชุมชน ช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัย ในหลายพื้นที่ ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่เข้าร่วมโรงการ และมีการฝ่าฝืนขายสินค้าเกินราคา ประชาชนสามารถร้องเรียนได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1569 โดยหากพบขายเกินราคาจริง มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการแข่งขันในตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านปีหน้าคาดว่าจะรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่อย่างอีเกียเข้ามาทำตลาด ส่งผลให้ตลาดมีความคึกคัก ประกอบกับผู้บริโภคเริ่มออกมาซื้อเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้าน เพื่อทดแทนของเก่าที่ถูกน้ำท่วมคาดว่าจะส่งผลให้ไตรมาสแรกของปี 2555 บริษัทน่าจะมียอดขายเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 15%
"พฤติกรรมการซื้อเฟอร์นิเจอร์ของผู้บริโภคมี 2 แบบ คือ เลือกซื้อที่ดีไซน์และราคาสมเหตุผล กับเน้นดีไซน์ไม่สนใจราคาขาย บริษัทจึงเล็งเห็นช่องว่างในการเข้ามาทำตลาด ด้วยการผลิตสินค้าที่มีดีไซน์แต่มีราคาไม่แพง หรือถูกกว่าคู่แข่งประมาณ 30-50% เข้ามาทำตลาด"
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้านั้น บริษัทจะเปิดสาขาใหม่จำนวน 2 สาขาในไทย คือ ที่ เดอะ วอล์ค ราชพฤกษ์ และเดอะ วอล์ค เกษตร-นวมินทร์ งบลงทุนรวม 2,200 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังมีแผนจะขยายสาขาต่างประเทศในรูปแบบแฟรนไชส์ 3 สาขา ที่กาตาร์ อินเดีย และเนปาล โดยสิ้นปี 2555 คาดมีรายได้ 8,600 ล้านบาท เติบโต 7% จากปี 2554 ที่มียอดขายอยู่ที่ 8,050 ล้านบาท
