ประธานนโยบาย สทท. ฝัน ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปีหน้า แตะ 20 ล้านคน สูงกว่าตัวเลขของ ททท. และโตกว่าอัตราการเติบโตของภูมิภาคเอเชีย อ้างทุกครั้งหลังวิกฤต ไทยจะมีแรงเหวี่ยงสูงจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยว จี้กระทรวงท่องเที่ยวปรับแผนรับตลาดเอเชีย ชูกิจกรรมชอบปิ้ง เพิ่มกำลังการใช้เงิน หวั่นไทยเสียแชมป์ส่วนแบ่งรายได้ท่องเที่ยวของอาเซียน
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) กล่าวว่า ได้จัดประมาณการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2555 เบื้องต้นคาดการณ์ไว้ที่ 20.2 ล้านคน เติบโตกว่า 8% มากกว่า ที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและ ททท.ประเมินว่าปีหน้าจะทำได้ 19.5 ล้านคน จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ 18.7 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศในปีหน้า 7.6 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่ประเมินว่าจะทำได้7.03-7.16 แสนล้านบาท
***นักท่องเที่ยวโต8%สูงกว่าภูมิภาค***
โดยหลักการคิดคำนวนมาจากตัวเลขการคาดการณ์การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยว ของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (พาต้า) ที่ระบุว่า นักท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออก ในปี 2555 จะเติบโตราว 6% ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโต 8% ซึ่งประเทศไทยในสถานการณ์ปกติ การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะโตมากกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอยู่เสมอ ประกอบกับเชื่อว่า ในปี 2555 ประเทศไทยจะมีแรงเหวี่ยง จากนักท่องเที่ยวที่ชะลอเดินทางมาประเทศไทย เพราะเหตุน้ำท่วมในปีนี้ เพราะทุกครั้งที่ไทยเกิดวิกฤต ในปีต่อไปจะเกิดแรงเหวี่ยงที่ผลักดันให้ท่องเที่ยวเติบโตสูง
“ปัจจัยเกื้อหนุนที่จะทำให้ท่องเที่ยวของประเทศไทยเติบโตสูงได้ในปีหน้า คือ การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวในเอเชีย ซึ่งมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจ และพฤติกรรมการท่องเที่ยวระยะใกล้ภายในภูมิภาคเดียวกัน ขณะที่นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป จะถูกแรงกดดันจากวิกฤตเศรษฐกิจภายในภูมิภาค ทำให้อัตราการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยอาจน้อยกว่าค่าเฉลี่ยดังกล่าวข้างต้น”
อย่างไรก็ตาม การประมาณการณ์ตัวเลขดังกล่าวมา เป็นการประเมินจากฝ่ายนโยบาย โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ สทท. เพื่อพิจารณา ไปพร้อมกับตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 ซึ่งประเมินว่าจะต่ำกว่า 100 เพราะเหตุน้ำท่วม มีผลกระทบต่อธุรกิจ และความเชื่อมั่นจะกลับมาเกิน 100 ได้ในไตรมาสแรกปีหน้า
***บี้รัฐปรับแผนเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว***
นายกงกฤช กล่าวว่า จากแนวโน้มการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดระยะใกล้ วันพักเฉลี่ยน้อย จึงต้องการให้กระทรวงการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการปรับแผน ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยว เพื่อดึงให้เกิดการใช้จ่ายสูง และมีอัตราการเติบโตของรายได้ในทิศทางเดียวกันกับด้านจำนวน เช่น การจัดแคมเปญหรือกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการชอปปิ้ง กิจกรรมสันทนาการต่างๆ ตลอดจนมาตรการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว เช่น การขยายเวลาวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ให้สามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้ปีละหลายครั้ง
ทั้งนี้เพราะการประเมินของพาต้าระบุว่า ขีดความสามารถการแข่งขันภาคท่องเที่ยวของไทยลดลง เมื่อเทียบประเทศเพื่อนบ้าน โดยปี 46 ไทยเคยมีสัดส่วนรายได้ท่องเที่ยว 36% ของรายได้ท่องเที่ยวทั้งหมดที่อาเซียนทำได้ แต่ปี 53 สัดส่วนลดเหลือ 30% ขณะที่มาเลเซีย สัดส่วนรายได้ท่องเที่ยวเพิ่มจาก 23% เป็น 28% และสิงคโปร์ เพิ่มจาก 13% เป็น 15% จากตัวเลขดังกล่าว จึงต้องการให้รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมนี้ รีบหันมาดูแลปรับโครงสร้างท่องเที่ยวของไทย เพื่อรักษาขีดความสามารถให้แข่งขันกับประเทศอื่นได้
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกปี หมุนเวียนไปในแต่ละภูมิภาค เพื่อเป็นการสร้างความมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวรัฐบาลควรมีแผนบริหารความเสี่ยงสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยว ด้วยการจัดตั้งกองทุน 5,000 ล้านบาท ประกันภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เผชิญสถานการณ์ เมื่อเดินทางเข้ามาประเทศไทย และได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และภัยอื่นๆ รัฐบาลไทยจะจ่ายเงินชดเชย
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) กล่าวว่า ได้จัดประมาณการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2555 เบื้องต้นคาดการณ์ไว้ที่ 20.2 ล้านคน เติบโตกว่า 8% มากกว่า ที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและ ททท.ประเมินว่าปีหน้าจะทำได้ 19.5 ล้านคน จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ 18.7 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศในปีหน้า 7.6 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่ประเมินว่าจะทำได้7.03-7.16 แสนล้านบาท
***นักท่องเที่ยวโต8%สูงกว่าภูมิภาค***
โดยหลักการคิดคำนวนมาจากตัวเลขการคาดการณ์การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยว ของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (พาต้า) ที่ระบุว่า นักท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออก ในปี 2555 จะเติบโตราว 6% ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโต 8% ซึ่งประเทศไทยในสถานการณ์ปกติ การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะโตมากกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอยู่เสมอ ประกอบกับเชื่อว่า ในปี 2555 ประเทศไทยจะมีแรงเหวี่ยง จากนักท่องเที่ยวที่ชะลอเดินทางมาประเทศไทย เพราะเหตุน้ำท่วมในปีนี้ เพราะทุกครั้งที่ไทยเกิดวิกฤต ในปีต่อไปจะเกิดแรงเหวี่ยงที่ผลักดันให้ท่องเที่ยวเติบโตสูง
“ปัจจัยเกื้อหนุนที่จะทำให้ท่องเที่ยวของประเทศไทยเติบโตสูงได้ในปีหน้า คือ การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวในเอเชีย ซึ่งมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจ และพฤติกรรมการท่องเที่ยวระยะใกล้ภายในภูมิภาคเดียวกัน ขณะที่นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป จะถูกแรงกดดันจากวิกฤตเศรษฐกิจภายในภูมิภาค ทำให้อัตราการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยอาจน้อยกว่าค่าเฉลี่ยดังกล่าวข้างต้น”
อย่างไรก็ตาม การประมาณการณ์ตัวเลขดังกล่าวมา เป็นการประเมินจากฝ่ายนโยบาย โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ สทท. เพื่อพิจารณา ไปพร้อมกับตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 ซึ่งประเมินว่าจะต่ำกว่า 100 เพราะเหตุน้ำท่วม มีผลกระทบต่อธุรกิจ และความเชื่อมั่นจะกลับมาเกิน 100 ได้ในไตรมาสแรกปีหน้า
***บี้รัฐปรับแผนเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว***
นายกงกฤช กล่าวว่า จากแนวโน้มการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดระยะใกล้ วันพักเฉลี่ยน้อย จึงต้องการให้กระทรวงการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการปรับแผน ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยว เพื่อดึงให้เกิดการใช้จ่ายสูง และมีอัตราการเติบโตของรายได้ในทิศทางเดียวกันกับด้านจำนวน เช่น การจัดแคมเปญหรือกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการชอปปิ้ง กิจกรรมสันทนาการต่างๆ ตลอดจนมาตรการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว เช่น การขยายเวลาวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ให้สามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้ปีละหลายครั้ง
ทั้งนี้เพราะการประเมินของพาต้าระบุว่า ขีดความสามารถการแข่งขันภาคท่องเที่ยวของไทยลดลง เมื่อเทียบประเทศเพื่อนบ้าน โดยปี 46 ไทยเคยมีสัดส่วนรายได้ท่องเที่ยว 36% ของรายได้ท่องเที่ยวทั้งหมดที่อาเซียนทำได้ แต่ปี 53 สัดส่วนลดเหลือ 30% ขณะที่มาเลเซีย สัดส่วนรายได้ท่องเที่ยวเพิ่มจาก 23% เป็น 28% และสิงคโปร์ เพิ่มจาก 13% เป็น 15% จากตัวเลขดังกล่าว จึงต้องการให้รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมนี้ รีบหันมาดูแลปรับโครงสร้างท่องเที่ยวของไทย เพื่อรักษาขีดความสามารถให้แข่งขันกับประเทศอื่นได้
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกปี หมุนเวียนไปในแต่ละภูมิภาค เพื่อเป็นการสร้างความมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวรัฐบาลควรมีแผนบริหารความเสี่ยงสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยว ด้วยการจัดตั้งกองทุน 5,000 ล้านบาท ประกันภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เผชิญสถานการณ์ เมื่อเดินทางเข้ามาประเทศไทย และได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และภัยอื่นๆ รัฐบาลไทยจะจ่ายเงินชดเชย
