“กิตติรัตน์” กล่อมเอกชนร่วมสูบน้ำลงคลองรังสิต-หวังจิตอาสาผู้ผลิตคงราคาวัสดุก่อสร้าง

“กิตติรัตน์” เผย ผลหารือสมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้ข้อสรุป รัฐ-เอกชนช่วยกันเร่งสูบน้ำจากหมู่บ้านฝั่งรังสิต-องครักษ์ ลงคลองรังสิต พรุ่งนี้ ส่วนฝั่งตะวันตกพหลโยธิน บางใหญ่ รามอินทรา กำลังเร่งประสาน หวังจิตอาสาผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างไม่โก่งราคาหลังน้ำลด

วันที่ 25 พ.ย.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับสมาคมอสังหาริมทรัพย์และคณะ เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือเรื่องผลกระทบจากอุทกภัย ว่า จะมีการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งผู้ประกอบการบ้านจัดสรร นิติบุคคล อาคาร ซึ่งจะมีการรวมกลุ่มกันทางฝั่งถนนรังสิต-องครักษ์ ด้านตะวันออกของถนนพหลโยธิน ในวันที่ 26 พ.ย.นี้ เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากหมู่บ้านต่างๆ ลงไปยังคลองรังสิต ซึ่งต้องทำงานเป็นทอดๆ เพราะบางแห่งอยู่ลึกต้องสูบลงคลองย่อย เพื่อลงไปยังคลองรังสิตอีกต่อหนึ่ง และต้องแน่ใจว่าจะไม่กระทบกระเทือนต่อผู้อื่น

นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนทางฝั่งตะวันตกของถนนพหลโยธิน คือ ด้านหมู่บ้านเมืองเอก มหาวิทยาลัยรังสิต นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ประสานแล้ว จุดสำคัญอยู่ที่คลองรังสิต ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ที่จะเชื่อมออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา มีเครื่องสูบน้ำใหญ่ 8 เครื่อง สูบน้ำได้ 24 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญว่าอาจเร่งการสูบได้อีก เพราะแม่น้ำเจ้าพระยาได้ลดระดับลง จึงต้องประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกรมชลประทานในเรื่องการเปิดปิดประตูระบายน้ำ ด้านฝั่งนนทบุรี บางใหญ่ ได้ประสานผู้ว่านนทบุรีและรองผู้ว่าฯ เพื่อปรึกษาว่าจะเร่งสูบน้ำออกแม่น้ำท่าจีนด้วยเส้นทางใดบ้าง และจะประสานชุมชนในการผลักดันน้ำในพื้นที่ เป้าหมายอยากให้น้ำแห้งเร็วที่สุด ก็เห็นใจผู้ที่อยู่อาศัย ส่วนพื้นที่ด้านรามอินทรา ผู้ประกอบการกำลังรวมทีมกันและประสานส่วนท้องถิ่น โดยวันนี้ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากไจก้ามาด้วย เพราะเขาอยากช่วยดูแลด้านที่อยู่อาศัยและสถานศึกษาด้วย นอกเหนือจากเขตอุตสาหกรรม

“การหารือคือรับฟังข้อชี้แนะ ต้องยอมรับว่า ผู้ประกอบการบางครั้งทำธุรกิจแข่งขันกัน อาจจะไม่ได้ประสานงานกัน แต่หมู่บ้านอยู่ใกล้ๆ กัน รัฐต้องมาเป็นตัวเชื่อมให้ บางโซนมี 7-8 หมู่บ้าน อาจจะเป็นคนละเจ้า เมื่อแลกเปลี่ยนความเห็นก็ทำงานร่วมกันได้” นายกิตติรัตน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาวัสดุก่อสร้าง นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้แสดงเจตนาอย่างชัดเจน พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เดือดร้อน ข้อกังวลที่ว่าวัสดุก่อสร้างจะมีราคาสูงหลังน้ำลด จะไม่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ ก็อยู่ที่จิตอาสาของผู้ประกอบการด้วย กระทรวงพาณิชย์ช่วยให้กำลังใจผู้ประกอบการที่ตั้งใจดี ไม่อยากใช้วิธีควบคุมราคาโดยไม่จำเป็น เพราะหากผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือ และรัฐควบคุมราคาเขาอาจจะลดคุณภาพ หรือผลิตน้อยทำให้ขาดตลาด แต่ขณะนี้เจ้าใหญ่ 2-3 รายได้แสดงเจตนารมณ์มาชัดเจน และเชื่อว่ารายอื่นยินดีที่จะทำตาม นักธุรกิจเขาพอเข้าใจเวลามีความต้องการสินค้ามาก อาจไม่ต้องกำไรเยอะก็สามารถทำธุรกิจได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่บริษัทเอกชนจะย้ายฐานการผลิตไปกัมพูชา เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมและค่าแรงขั้นต่ำที่ขึ้นไปเป็น 300 บาท นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า กัมพูชาก็ท่วมเหมือนกับเรา