ครม.ไฟเขียวควบคุมสินค้า 16 รายการ ตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมถึงสิ้นปี “ค้าภายใน” ออกประกาศให้มีผลทันที 26 ต.ค.นี้ “พาณิชย์” เคาะนำเข้าสินค้าจำเป็น 3 หมวดหลัก แก้ปัญหาขาดแคลน เล็งขอฟรีโซนสุวรรณภูมิ ศาลากลางจังหวัดกระจายสินค้า “พลังงาน” สั่งเพิ่มสำรองน้ำมันอีก 11 วัน จาก 18 วันเป็น 29 วัน เพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่ปั๊มน้ำมัน-ก๊าซ ปิดบริการไปแล้ว 162 แห่ง
น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้กำหนดสินค้า 16 รายการ เป็นสินค้าควบคุมในภาวะที่มีปัญหาอุทกภัย ประกอบด้วย น้ำดื่มบรรจุภาชนะปิดผนึก กระดาษชำระ กระดาษเช็ดหน้า ไฟฉาย ถ่านไฟฉาย ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ทราย ทรายบรรจุถุง อิฐบล็อก เสื้อชูชีพ เรือขนาดเล็กไม่เกิน 15 ที่นั่ง รองเท้าบู๊ตยาง เครื่องนอน ถังน้ำ เครื่องสูบน้ำ ผลิตภัณฑ์ยาแนวกันน้ำ และเทียนไข
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติตาม ครม.ที่จะควบคุมราคาและปริมาณสินค้าทั้ง 16 รายการ ซึ่งจะเป็นมาตรการชั่วคราว อีกทั้งทางกระทรวงพาณิชย์จะเปิดให้มีการนำเข้าสินค้าที่จำเป็นที่ประสบปัญหาขาดแคลนภายในสัปดาห์หน้า ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้จำเป็น เครื่องกรองน้ำและตู้กรองน้ำดื่ม เป็นต้น
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะประกาศบัญชีสินค้าควบคุมเพิ่มเติมอีก 16 รายการ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.-31 ธ.ค.2554 ทั้งนี้ จะให้ผู้ผลิตสินค้าแต่ละชนิด แจ้งรายละเอียดต้นทุน โกดังเก็บสินค้า รวมถึงการกระจายสินค้ามาที่กรมการค้าภายใน ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินราคาสินค้าที่เหมาะสมต่อไป
หากผู้ผลิตไม่ได้แจ้งข้อมูลดังกล่าว จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีพบจำหน่ายสินค้าเกินราคาควบคุม จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การประชุมร่วมกับตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต องค์การคลังสินค้า (อคส.) และสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กำหนดที่จะนำเข้าสินค้า 3 กลุ่ม เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าขาดแคลนในพื้นที่ต่างๆ ช่วงสถานการณ์น้ำท่วม ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เช่น น้ำดื่ม ปลากระป๋อง ไข่ นมข้นหวาน นมถั่วเหลือง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผักสด กลุ่มของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าอนามัย กระดาษทิชชู สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน และกลุ่มของใช้เกี่ยวกับน้ำท่วม เช่น เครื่องกรองน้ำ และตู้กดน้ำ เป็นต้น
ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือให้ อย.เร่งรัดการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับสินค้าอาหารและเครื่องดื่มรวดเร็วขึ้น จากเดิมต้องใช้ระยะเวลา 35 วัน เหลือไม่เกิน 5 วัน รวมทั้งขอกรมปศุสัตว์ กรมวิชาการเกษตร และหน่วยงานของกระทรวงการคลัง อำนวยความสะดวกเรื่องใบอนุญาตการนำเข้าเกี่ยวกับภาษีและอากรต่างๆ ให้รวดเร็วขึ้น คาดว่าจะเริ่มนำเข้าสินค้าเหล่านี้ได้ภายในสัปดาห์หน้า
นายยรรยง กล่าวว่า จะเจรจากับกระทรวงคมนาคมขอใช้พื้นที่เขตปลอดภาษี (ฟรีโซน) ของสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งพื้นที่ของกองทัพอากาศ คลังสินค้าของ อคส. และศาลากลางจังหวัด ขอใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้า เพื่อบรรเทาปัญหาในการกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้เร็วที่สุด
นายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า บิ๊กซีเตรียมแผนนำเข้าสินค้าจำเป็นรายการต่างๆ เช่น น้ำดื่ม ปลากระป๋อง และไข่ไก่ จากผู้ผลิตในต่างประเทศ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้วในเบื้องต้น
**สำรองพลังงานเพิ่ม 11 วัน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำที่ท่วมในหลายพื้นที่ในขณะนี้ถือเป็นเหตุการณ์วิกฤติที่ต้องเตรียมพร้อมในการสำรองพลังงานของประเทศ ดังนั้น ในระยะยาวกระทรวงพลังงานมีแผนที่จะเพิ่มการสำรองน้ำมันจาก 18 วัน เป็น 29 วัน เพื่อรองรับความต้องการใช้ในช่วงเกิดวิกฤติทั้งในและต่างประเทศ โดยจะต้องทำแผนดำเนินการให้ชัดเจน โดยเฉพาะการสำรองน้ำมันว่าจะเป็นหน้าที่ใครระหว่างภาครัฐกับเอกชน โดยเบื้องต้นเห็นว่าขณะนี้คลังน้ำมันของเอกชนยังเพิ่มปริมาณการสำรองได้อีก
รายงานข่าวเพิ่มเติม ระบุว่า สถานีบริการน้ำมันที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว 276 แห่งทั่วประเทศ โดยมีปั๊มน้ำมันที่ปิดให้บริการไปแล้ว 242 แห่ง ปั๊มแอลพีจี 88 แห่ง ปั๊มเอ็นจีวี 60 แห่ง และโรงบรรจุก๊าซ 18 แห่ง โดยโรงไฟฟ้าพระนครเหนือยังทำงานได้ตามปกติ และมีแผนรองรับหากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงยืนยันว่าน้ำมันและก๊าซในประเทศจะไม่ขาดแคลน แต่การขนส่งจะล่าช้า เพราะต้องปรับเส้นทางการเดินรถใหม่เพี่อหลีกเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ด้าน นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม กล่าวถึงผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าสภาพภายในศูนย์จ่ายน้ำมันบางปะอินและหน่วยผลิตไบโอดีเซลบี-100 ยังไม่มีน้ำท่วมขัง แต่ได้หยุดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.2554 ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพการจราจรโดยรอบมีน้ำท่วมสูง ทำให้รถบรรทุกน้ำมันไม่สามารถผ่านได้ จึงให้ไปรับน้ำมันที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ถนนสุขุมวิท 64 และคลังน้ำมันที่จังหวัดสมุทรสาครแทน ซึ่งมีน้ำมันสำรองอย่างเพียงพอต่อความต้องการใช้ของประชาชน
สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 8 เมกะวัตต์ ภายในมีน้ำท่วมขังระดับเดียวกับแผงโซลาร์ ซึ่งบริษัทได้ถอดเก็บอุปกรณ์สำคัญในการผลิตไฟฟ้าบางส่วนออกเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะกลับมาดำเนินการตามปกติหลังจากน้ำลดลงแล้วประมาณ 2 เดือน
