ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”สั่งจัดหนัก พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า เหตุของขาดหลังโรงงานหยุดผลิตทำสินค้าหายไป 10-20% แถมระบบโลจิสติกส์เป็นอัมพาต จับโชว์ผู้ค้าทรายบรรจุถุงเอาเปรียบ พร้อมจับตามาม่า น้ำดื่ม อาหารกระป๋อง ผัก ไข่ไก่ หลังได้รับร้องเรียนพุ่ง เตรียมของบเร่งด่วนรัฐบาลจัดมหกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจ สู้ภัยน้ำท่วม ขนสินค้าจำเป็นขายประชาชน
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดขอปรับขึ้นราคาสินค้าเข้ามายังกระทรวงพาณิชย์ แต่ที่ประชาชนพบว่าสินค้ามีราคาแพงขึ้น เป็นเพราะผู้ค้าได้ฉวยโอกาสปรับราคาเพิ่มขึ้นจากปัญหาผลผลิตขาดแคลนจากการที่โรงงานบางแห่งถูกน้ำท่วม ทำให้สินค้าหายไปจากตลาดประมาณ 10-20% และยังมีปัญหาเรื่องการขนส่งสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือไปยังโรงงานอื่นๆ ที่ยังผลิตได้ให้เพิ่มกำลังการผลิต และกระจายสินค้าเข้าสู่ตลาดให้มากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลน และกระทบกับการเป็นอยู่ของประชาชน
ขณะเดียวกัน ได้จัดส่งสายตรวจลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม เพื่อป้องกันการฉวยโอกาส และยืนยันที่จะดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่หากินบนความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้ว โดยประชาชนสามารถร้องเรียนปัญหาสินค้าได้ที่สายด่วน 1569
สำหรับการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าที่ได้รับการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ในช่วงที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ค้าทรายบรรจุถุงที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาไปแล้ว 10 ราย สั่งปรับ 2-6 พันบาท และมี 1 รายที่ขายราคาสูงเกินสมควร ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและเอาผิดตามมาตรา 29 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ราคาขายทรายบรรจุถุงล่าสุดอยู่ที่ถุงละ 35-40 บาท
ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่ได้รับการร้องเรียนว่าหาซื้อยากและมีราคาแพง เช่น บะหมึ่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม อาหารกระป๋อง ซึ่งได้ประสานให้โรงงานเร่งผลิตเพิ่มมากขึ้น และพยายามจัดส่งเข้าไปยังพื้นที่ที่ขาดแคลนแล้ว สำหรับผักสด และไข่ไก่ ก็ได้รับการร้องเรียนว่าราคาแพงขึ้น เนื่องจากแหล่งผลิตเสียหายจากน้ำท่วม ได้มีการประสานไปยังแหล่งผลิตอื่นๆ เพื่อส่งสินค้าเข้ามาป้อนแล้ว โดยผักสดประสานจากจากจ.ราชบุรี และไข่ไก่จากจังหวัดทางภาคเหนือ
นายยรรยงกล่าวว่า สำหรับการดูแลประชาชนไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อหาสินค้า ได้ประสานไปยังสมาคมค้าปลีกค้าส่งไทย ร้านค้าส่งในจังหวัด และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม นำสินค้าที่ประชาชนมีความต้องการสูง ได้แก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และนมพร้อมดื่ม ไปจำหน่ายใน 21 จังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท นนทบุรี สิงห์บุรี พิษณุโลก สุโขทัย ลำปาง สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก เพชรบุรี อ่างทอง ลพบุรี ชลบุรี และจะขยายการจำหน่ายให้ครบทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้จัดรถโมบายยูนิต นำสินค้าที่เป็นที่ต้องการมาก เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช สินค้าอุปโภคบริโภค โดยจะนำใส่รถไปจำหน่ายในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมด้วย
สำหรับแผนการฟื้นฟูที่กระทรวงพาณิชย์จะเสนอต่อรัฐบาลพิจารณาอนุมัติเร่งด่วน ก็คือ จะของบประมาณ 100 ล้านบาทเพื่อจัดงาน “มหกรรมพาณิชย์ฟื้นเศรษฐกิจ สู้ภัยน้ำท่วม” จำนวน 4-5 ครั้ง ในพื้นที่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วม หรือ จัดงานในชุมชนที่มีปัญหาน้ำท่วม โดยจะนำสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพไปจำหน่าย รวมถึงสินค้าของผู้ประกอบการที่เก็บสต๊อกไว้ แต่ไม่สมารถขนส่งสินค้าไปยังผู้ซื้อได้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีทุนสำหรับบริหารธุรกิจต่อไปได้ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนแผนการจัดงานธงฟ้าและการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม ยังคงเดินหน้าต่อไป แต่ขณะนี้ขอทำเรื่องเร่งด่วนก่อน
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดขอปรับขึ้นราคาสินค้าเข้ามายังกระทรวงพาณิชย์ แต่ที่ประชาชนพบว่าสินค้ามีราคาแพงขึ้น เป็นเพราะผู้ค้าได้ฉวยโอกาสปรับราคาเพิ่มขึ้นจากปัญหาผลผลิตขาดแคลนจากการที่โรงงานบางแห่งถูกน้ำท่วม ทำให้สินค้าหายไปจากตลาดประมาณ 10-20% และยังมีปัญหาเรื่องการขนส่งสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือไปยังโรงงานอื่นๆ ที่ยังผลิตได้ให้เพิ่มกำลังการผลิต และกระจายสินค้าเข้าสู่ตลาดให้มากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลน และกระทบกับการเป็นอยู่ของประชาชน
ขณะเดียวกัน ได้จัดส่งสายตรวจลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม เพื่อป้องกันการฉวยโอกาส และยืนยันที่จะดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่หากินบนความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้ว โดยประชาชนสามารถร้องเรียนปัญหาสินค้าได้ที่สายด่วน 1569
สำหรับการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าที่ได้รับการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ในช่วงที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ค้าทรายบรรจุถุงที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาไปแล้ว 10 ราย สั่งปรับ 2-6 พันบาท และมี 1 รายที่ขายราคาสูงเกินสมควร ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและเอาผิดตามมาตรา 29 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ราคาขายทรายบรรจุถุงล่าสุดอยู่ที่ถุงละ 35-40 บาท
ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่ได้รับการร้องเรียนว่าหาซื้อยากและมีราคาแพง เช่น บะหมึ่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม อาหารกระป๋อง ซึ่งได้ประสานให้โรงงานเร่งผลิตเพิ่มมากขึ้น และพยายามจัดส่งเข้าไปยังพื้นที่ที่ขาดแคลนแล้ว สำหรับผักสด และไข่ไก่ ก็ได้รับการร้องเรียนว่าราคาแพงขึ้น เนื่องจากแหล่งผลิตเสียหายจากน้ำท่วม ได้มีการประสานไปยังแหล่งผลิตอื่นๆ เพื่อส่งสินค้าเข้ามาป้อนแล้ว โดยผักสดประสานจากจากจ.ราชบุรี และไข่ไก่จากจังหวัดทางภาคเหนือ
นายยรรยงกล่าวว่า สำหรับการดูแลประชาชนไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อหาสินค้า ได้ประสานไปยังสมาคมค้าปลีกค้าส่งไทย ร้านค้าส่งในจังหวัด และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม นำสินค้าที่ประชาชนมีความต้องการสูง ได้แก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และนมพร้อมดื่ม ไปจำหน่ายใน 21 จังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท นนทบุรี สิงห์บุรี พิษณุโลก สุโขทัย ลำปาง สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก เพชรบุรี อ่างทอง ลพบุรี ชลบุรี และจะขยายการจำหน่ายให้ครบทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้จัดรถโมบายยูนิต นำสินค้าที่เป็นที่ต้องการมาก เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช สินค้าอุปโภคบริโภค โดยจะนำใส่รถไปจำหน่ายในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมด้วย
สำหรับแผนการฟื้นฟูที่กระทรวงพาณิชย์จะเสนอต่อรัฐบาลพิจารณาอนุมัติเร่งด่วน ก็คือ จะของบประมาณ 100 ล้านบาทเพื่อจัดงาน “มหกรรมพาณิชย์ฟื้นเศรษฐกิจ สู้ภัยน้ำท่วม” จำนวน 4-5 ครั้ง ในพื้นที่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วม หรือ จัดงานในชุมชนที่มีปัญหาน้ำท่วม โดยจะนำสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพไปจำหน่าย รวมถึงสินค้าของผู้ประกอบการที่เก็บสต๊อกไว้ แต่ไม่สมารถขนส่งสินค้าไปยังผู้ซื้อได้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีทุนสำหรับบริหารธุรกิจต่อไปได้ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนแผนการจัดงานธงฟ้าและการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม ยังคงเดินหน้าต่อไป แต่ขณะนี้ขอทำเรื่องเร่งด่วนก่อน
